134
การแก้ไข
บรรทัดที่ 97: | บรรทัดที่ 97: | ||
== การป้องกันกำจัด == | == การป้องกันกำจัด == | ||
ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)<ref>สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช. 2559. คู่มือการจัดการ ปัญหาศัตรูมันสำปะหลังแบบผสมผสาน. การันตี, กรุงเทพฯ.</ref> | ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)<ref>สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช. 2559. คู่มือการจัดการ ปัญหาศัตรูมันสำปะหลังแบบผสมผสาน. การันตี, กรุงเทพฯ.</ref> | ||
[[หมวดหมู่:โรค]] | |||
เชื้อสาเหตุเกิดจากเชื้อรา ''Phoma eupyrena'' มีการเริ่มระบาดในปี 2557 ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ ระยอง สระแก้ว สระบุรี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ส่งผลให้เกษตรกรเกิดการขาดแคลนท่อนพันธุ์ เนื่องจากโรคดังกล่าวมีการแพร่ระบาดไปกับท่อนพันธุ์ได้ ทำให้มันสำปะหลังแห้งตายตั้งแต่ระยะ 1 – 2 เดือน | |||
== ลักษณะอาการ == | |||
[[ไฟล์:Image9.png|thumb|ลักษณะอาการของโรคลำต้นไหม้บริเวณลำต้นของมันสำปะหลัง]] | |||
เชื้อรามีการเข้าทำลายตรงรอยตัดส่วนบนของท่อนพันธุ์ ทำให้ยอดด้านบนแห้งตาย และเชื้อลามลงมาสู่โคนต้น บริเวณเปลือกลำต้นจะมีรอยปริแตก เป็นกลุ่มสปอร์เป็นเม็ดกลมสีดำปรากฏอยู่จำนวนมาก เมื่อยอดถูกทำลายจะทำให้มันสำปะหลังแตกตาข้างมากกว่าปกติ หากอาการรุนแรงต้นกล้าจะแสดงอาการใบเหลือง แห้ง ร่วง และยืนต้นตายในที่สุด | |||
== การแพร่ระบาด == | |||
โรคนี้มีการแพร่ระบาดไปกับท่อนพันธุ์ | |||
== การป้องกันกำจัด == | |||
ใช้ท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์และปลอดโรค หลีกเลี่ยงท่อนพันธุ์ที่อ่อนเกินไป ก่อนปลูกควรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรานาน 15 – 20 นาที โดยเลือกใช้สารเคมีดังนี้ | |||
ตารางที่1 สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา ''Phoma eupyrena'' | |||
{| class="wikitable" | |||
|ชื่อสามัญ | |||
|อัตราต่อน้ำ20 ลิตร | |||
|- | |||
|โปรคลอราซ (prochloraz 45% EC) | |||
|10 ซีซี | |||
|- | |||
|แมนเซ็ป (mancozeb 80% WP) | |||
|60 กรัม | |||
|- | |||
|ไพราโคสโตรบิน (pyraclostrobim 25% EC) | |||
|20 ซีซี | |||
|- | |||
|เมทาแลคซิล+แมนโคเซ็ป (metalaxyl+mancozeb 4%+64% WP) | |||
|80 กรัม | |||
|- | |||
|ฟลูโอไพแรม+ทีบูโคลนาโซน | |||
(fluopyram+tebuconazole 20%+20% W/V SC) | |||
|10 ซีซี | |||
|} | |||
หากไม่ทำการแช่ท่อนพันธุ์ และพบว่ามีการแพร่ระบาดรุนแรงในระยะ 1-2 เดือนหลังปลูก ควรพ่นสารกำจัดโรคดังตารางที่ 1 ให้ทั่วทั้งต้น (สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช, 2559)<ref>สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช. 2559. คู่มือการจัดการ ปัญหาศัตรูมันสำปะหลังแบบผสมผสาน. การันตี, กรุงเทพฯ.</ref> | |||
[[หมวดหมู่:โรค]] | [[หมวดหมู่:โรค]] | ||
การแก้ไข