71
การแก้ไข
บรรทัดที่ 2: | บรรทัดที่ 2: | ||
== '''พันธุ์กับชนิดของเนื้อดิน''' == | == '''พันธุ์กับชนิดของเนื้อดิน''' == | ||
ดินที่ใช้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ที่ปลูกกันโดยทั่วไปมักเป็นดินที่มีปฏิกิริยาเป็นกรด เนื้อหยาบ และมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เป็นดินทรายและดินร่วนปนทราย | ดินที่ใช้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ที่ปลูกกันโดยทั่วไปมักเป็นดินที่มีปฏิกิริยาเป็นกรด เนื้อหยาบ และมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เป็นดินทรายและดินร่วนปนทราย ที่มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินต่ำถึงต่ำมากจึงมีการเลือกพันธุ์มันสำปะหลังให้เหมาะสมกับชนิดของเนื้อดินและความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่ออัตราการรอดหลังปลูกและผลผลิตที่สูงขึ้น ดังตารางที่ 1 | ||
'''ตารางที่ 1''' พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับชนิดของเนื้อดินแต่ละชนิด | '''ตารางที่ 1''' พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับชนิดของเนื้อดินแต่ละชนิด | ||
บรรทัดที่ 61: | บรรทัดที่ 60: | ||
== พันธุ์กับโซนพื้นที่ปลูก == | == พันธุ์กับโซนพื้นที่ปลูก == | ||
การเลือกพันธุ์มันสำปะหลังให้เหมาะกับพื้นที่ปลูกเป็นการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงและดูแลรักษาเพื่อปรับสภาพพื้นที่ปลูกให้เหมาะกับชนิดของพันธุ์นั้นๆ | การเลือกพันธุ์มันสำปะหลังให้เหมาะกับพื้นที่ปลูกเป็นการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงและดูแลรักษาเพื่อปรับสภาพพื้นที่ปลูกให้เหมาะกับชนิดของพันธุ์นั้นๆ โดยการวางแผนผลิตมันสำปะหลังตามการแบ่งเขตการผลิตนิเวศน์เกษตรของกรมพัฒนาที่ดินได้แบ่งเขตการผลิตเป็น 7 เขต ดังตารางที่ 2 | ||
'''ตารางที่ 2''' สายพันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับโซนพื้นที่ต่างๆ | '''ตารางที่ 2''' สายพันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมกับโซนพื้นที่ต่างๆ | ||
บรรทัดที่ 139: | บรรทัดที่ 137: | ||
* เกษตรศาสตร์ 50 | * เกษตรศาสตร์ 50 | ||
|} | |} | ||
== '''พันธุ์กับฤดูปลูก ''' == | |||
การปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทย เกษตรกรสามารถเลือกปลูกได้ทั้งต้นฤดูฝน (กุมภาพันธ์ - เมษายน) และปลายฤดูฝน (พฤศจิกายน - มกราคม) มันสำปะหลังจะให้ผลผลิตหัวสดสูงสุดหากปลูกช่วงต้นฤดูฝน อย่างไรก็ตามการปลูกในช่วงปลายฝนหรือช่วงแล้ง สามารถลดปัญหาวัชพืช มีผลดีต่อการอนุรักษ์ดิน เนื่องจากช่วงแรกที่ปลูกแม้จะเติบโตช้า แต่ไม่มีฝนตกที่ทำให้เกิดการชะล้างของหน้าดิน เมื่อถึงฤดูฝนมันสำปะหลังจะเจริญเติบโตแผ่พุ่มใบทำให้ลดแรงปะทะจากฝน อีกทั้งมันสำปะหลังเป็นพืชที่สามารถทนแล้งได้ดี ซึ่งหลังจากปลูกและต้นพันธุ์สามารถตั้งตัวได้แล้ว เมื่อขาดฝนมันสำปะหลังจะลดพื้นที่ใบโดยการผลัดใบแก่และสร้างใบใหม่ให้น้อยลง ใบมีขนาดเล็กลง เพื่อลดการคายน้ำ โดยมันสำปะหลังแต่ละพันธุ์มีการตอบสนองต่อช่วงการปลูกและให้ผลผลิตที่ต่างกัน ดังตารางที่ 3 | |||
'''ตารางที่ 3''' ปริมาณแป้งในหัวสด ผลผลิตหัวสด ผลผลิตแป้ง และผลผลิตมันเส้นของมันสำปะหลังแต่ละพันธุ์ เมื่อปลูกปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝน | |||
{| class="wikitable" | |||
| rowspan="2" |'''พันธุ์''' | |||
| colspan="2" |'''ปริมาณแป้งในหัวสด (%)''' | |||
| colspan="2" |'''ผลผลิตหัวสด''' | |||
'''(ตันต่อไร่)''' | |||
| colspan="2" |'''ผลผลิตแป้ง''' | |||
'''(ตันต่อไร่)''' | |||
| colspan="2" |'''ผลผลิตมันเส้น''' | |||
'''(ตันต่อไร่)''' | |||
|- | |||
|'''ปลายฝน''' | |||
|'''ต้นฝน''' | |||
|'''ปลายฝน''' | |||
|'''ต้นฝน''' | |||
|'''ปลายฝน''' | |||
|'''ต้นฝน''' | |||
|'''ปลายฝน''' | |||
|'''ต้นฝน''' | |||
|- | |||
|* ระยอง 7 | |||
|27.6 | |||
|27.2 | |||
|6.30 | |||
|6.36 | |||
|1.77 | |||
|1.73 | |||
|2.43 | |||
|2.36 | |||
|- | |||
|ระยอง 90 | |||
|26.8 | |||
|25.8 | |||
|5.26 | |||
|5.14 | |||
|1.42 | |||
|1.33 | |||
|1.99 | |||
|1.91 | |||
|- | |||
|ระยอง 5 | |||
|24.7 | |||
|25.0 | |||
|5.36 | |||
|5.27 | |||
|1.33 | |||
|1.32 | |||
|1.95 | |||
|1.92 | |||
|- | |||
|เกษตรศาสตร์ 50 | |||
|26.1 | |||
|24.4 | |||
|5.48 | |||
|5.98 | |||
|1.45 | |||
|1.51 | |||
|2.05 | |||
|2.19 | |||
|- | |||
|ระยอง 72 | |||
|22.5 | |||
|22.9 | |||
|5.55 | |||
|5.81 | |||
|1.25 | |||
|1.33 | |||
|1.92 | |||
|2.05 | |||
|} | |||
'''''หมายเหตุ''''' * มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 เมื่อปลูกปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝน มีปริมาณแป้งในหัวสด ผลผลิตหัวสด ผลผลิตแป้ง และผลผลิตมันเส้นที่สูงกว่าพันธุ์อื่นๆ |
การแก้ไข