71
การแก้ไข
บรรทัดที่ 5: | บรรทัดที่ 5: | ||
== '''อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์หลังการตัดต้น''' == | == '''อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์หลังการตัดต้น''' == | ||
เกษตรกรควรใช้ต้นพันธุ์ที่สดใหม่ ตัดแล้วนำมาปลูกทันที หากต้องการเก็บต้นพันธุ์ไว้รอปลูก ให้รีบนำต้นพันธุ์ออกจากแปลงเพื่อป้องกันแดดเผาต้น | เกษตรกรควรใช้ต้นพันธุ์ที่สดใหม่ ตัดแล้วนำมาปลูกทันที หากต้องการเก็บต้นพันธุ์ไว้รอปลูก ให้รีบนำต้นพันธุ์ออกจากแปลงเพื่อป้องกันแดดเผาต้น นำมาเก็บรักษาโดยใช้วิธีมัดต้นพันธุ์แล้วนำมาวางตั้งเป็นกองให้ส่วนโคนของต้นสัมผัสผิวดิน '''ดังภาพที่ 1''' เมื่อเก็บไว้นาน ตาบนต้นพันธุ์จะแตกยอดอ่อนออกมา เกษตรกรควรตัดท่อนพันธุ์ส่วนที่แตกยอดอ่อนทิ้ง และเลือกเฉพาะส่วนที่ไม่มีการแตกยอดอ่อนไปปลูก วิธีนี้จะช่วยเก็บรักษาต้นพันธุ์ให้คงความสดไว้ได้นานกว่าการเก็บด้วยวิธีอื่น ๆ และสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 เดือน อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการเก็บรักษาต้นพันธุ์ยิ่งนานเท่าใด ส่วนของต้นพันธุ์ที่จะตัดเป็นท่อนพันธุ์ได้จะยิ่งน้อยลง และความงอกของท่อนพันธุ์ก็จะลดลงด้วย ดังนั้นท่อนพันธุ์ที่ดีไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 15 – 30 วัน และแต่ละพันธุ์จะมีอายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์แตกต่างกัน '''ดังตารางที่ 1''' | ||
'''ตารางที่ 1''' อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์ของมันสำปะหลังพันธุ์ต่าง ๆ | '''ตารางที่ 1''' อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์ของมันสำปะหลังพันธุ์ต่าง ๆ | ||
บรรทัดที่ 21: | บรรทัดที่ 21: | ||
|ไม่ควรเกิน 45 วัน | |ไม่ควรเกิน 45 วัน | ||
|} | |} | ||
[[ไฟล์:ท่อนพันธุ์สะอาด.jpg|center|thumb|441x441px|'''ภาพที่ 1''' แสดงวิธีการเก็บรักษาต้นพันธุ์ที่ดี]] | |||
== '''ส่วนของต้นพันธุ์ที่ใช้''' == | == '''ส่วนของต้นพันธุ์ที่ใช้''' == | ||
บรรทัดที่ 27: | บรรทัดที่ 28: | ||
== '''ขนาดและความยาวท่อนพันธุ์''' == | == '''ขนาดและความยาวท่อนพันธุ์''' == | ||
ท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง และมีขนาดพอเหมาะสำหรับปลูกควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 – 2.5 เซนติเมตร และมีความยาวท่อนพันธุ์ประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร มีตาอยู่ประมาณ 5 – 6 ตาต่อ 1 ท่อนพันธุ์ การปลูกมันสำปะหลังในช่วงต้นฤดูฝนควรใช้ท่อนพันธุ์ยาว 20 – 25 เซนติเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูฝนใช้ท่อนพันธุ์ยาว 25 – 30 เซนติเมตร จึงจะให้เปอร์เซ็นต์ความงอกและความอยู่รอดสูง โดยปกติส่วนปลายของท่อนพันธุ์จะสูญเสียความชื้นจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง ทำให้ท่อนพันธุ์เริ่มแห้งจากส่วนปลายลงมา การใช้ท่อนพันธุ์ยาวในการปลูกมีข้อดี คือ มีจำนวนตาบนท่อนพันธุ์มากกว่าและถึงแม้ท่อนพันธุ์จะมีการแห้งจากยอด แต่ยังมีตาที่เหลือถัดลงมาซึ่งสามารถงอกได้ นอกจากนี้การใช้ท่อนพันธุ์ยาวยังช่วยลดความเสียหายจากการใช้สารกำจัดวัชพืชขณะที่ต้นยังเล็กได้มากกว่าการใช้ท่อนพันธุ์สั้น | ท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง และมีขนาดพอเหมาะสำหรับปลูกควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 – 2.5 เซนติเมตร และมีความยาวท่อนพันธุ์ประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร มีตาอยู่ประมาณ 5 – 6 ตาต่อ 1 ท่อนพันธุ์ การปลูกมันสำปะหลังในช่วงต้นฤดูฝนควรใช้ท่อนพันธุ์ยาว 20 – 25 เซนติเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูฝนใช้ท่อนพันธุ์ยาว 25 – 30 เซนติเมตร จึงจะให้เปอร์เซ็นต์ความงอกและความอยู่รอดสูง โดยปกติส่วนปลายของท่อนพันธุ์จะสูญเสียความชื้นจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง ทำให้ท่อนพันธุ์เริ่มแห้งจากส่วนปลายลงมา การใช้ท่อนพันธุ์ยาวในการปลูกมีข้อดี คือ มีจำนวนตาบนท่อนพันธุ์มากกว่าและถึงแม้ท่อนพันธุ์จะมีการแห้งจากยอด แต่ยังมีตาที่เหลือถัดลงมาซึ่งสามารถงอกได้ นอกจากนี้การใช้ท่อนพันธุ์ยาวยังช่วยลดความเสียหายจากการใช้สารกำจัดวัชพืชขณะที่ต้นยังเล็กได้มากกว่าการใช้ท่อนพันธุ์สั้น | ||
[[ไฟล์:Image s3.png|center|thumb|'''ภาพที่ 2''' แสดงขนาดของท่อนพันธุ์ที่เหมาะสำหรับปลูกจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางใกล้เคียงกับเหรียญ 5 หรือ 10 บาท]] | |||
== '''ต้นพันธุ์ที่ปราศจากโรคและแมลง''' == | == '''ต้นพันธุ์ที่ปราศจากโรคและแมลง''' == | ||
บรรทัดที่ 32: | บรรทัดที่ 34: | ||
== '''ความบริสุทธิ์ของต้นพันธุ์''' == | == '''ความบริสุทธิ์ของต้นพันธุ์''' == | ||
การจัดหาต้นพันธุ์มันสำปะหลังควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และการจัดซื้อควรมีขั้นตอนการตรวจสอบพันธุ์ปนทุกครั้ง โดยตรวจสอบพันธุ์ปน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เป็นการสุ่มตรวจในแปลงก่อนตัดต้นพันธุ์โดยให้มีพันธุ์ปนไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ และตรวจสอบครั้งที่ 2 หลังการตัดต้นพันธุ์ เป็นการสุ่มตรวจในกองต้นพันธุ์ซึ่งควรมีพันธุ์ปนไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ | การจัดหาต้นพันธุ์มันสำปะหลังควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และการจัดซื้อควรมีขั้นตอนการตรวจสอบพันธุ์ปนทุกครั้ง โดยตรวจสอบพันธุ์ปน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เป็นการสุ่มตรวจในแปลงก่อนตัดต้นพันธุ์โดยให้มีพันธุ์ปนไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ และตรวจสอบครั้งที่ 2 หลังการตัดต้นพันธุ์ เป็นการสุ่มตรวจในกองต้นพันธุ์ซึ่งควรมีพันธุ์ปนไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้ | ||
* '''วิธีการตรวจสอบพันธุ์ปนในแปลงก่อนตัดต้นพันธุ์''' | * '''วิธีการตรวจสอบพันธุ์ปนในแปลงก่อนตัดต้นพันธุ์''' | ||
ควรดำเนินการในช่วงที่มันสำปะหลังมีอายุประมาณ 1 – 2 เดือนหลังปลูก เนื่องจากต้นยังเล็กและสามารถจำแนกพันธุ์ได้ง่ายกว่าช่วงอายุอื่น ๆ โดยใช้ลักษณะสียอดอ่อน และสีก้านใบในการจำแนกพันธุ์เป็นหลัก หรืออาจทำพร้อมกับการตรวจสอบความงอก โดยสุ่มตรวจเป็นจุด จุดละ 100 ต้น แปลงขนาด 25 ไร่ ควรสุ่มตรวจอย่างน้อย 5 จุด แล้วหาค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์พันธุ์ปนในแปลงนั้น ๆ การตรวจสอบพันธุ์ปนในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนจัดการด้านแรงงานที่ต้องใช้ในการคัดพันธุ์ปนทิ้งเพื่อให้ได้แปลงพันธุ์ที่บริสุทธิ์ | ควรดำเนินการในช่วงที่มันสำปะหลังมีอายุประมาณ 1 – 2 เดือนหลังปลูก เนื่องจากต้นยังเล็กและสามารถจำแนกพันธุ์ได้ง่ายกว่าช่วงอายุอื่น ๆ โดยใช้ลักษณะสียอดอ่อน และสีก้านใบในการจำแนกพันธุ์เป็นหลัก หรืออาจทำพร้อมกับการตรวจสอบความงอก โดยสุ่มตรวจเป็นจุด จุดละ 100 ต้น แปลงขนาด 25 ไร่ ควรสุ่มตรวจอย่างน้อย 5 จุด แล้วหาค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์พันธุ์ปนในแปลงนั้น ๆ การตรวจสอบพันธุ์ปนในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนจัดการด้านแรงงานที่ต้องใช้ในการคัดพันธุ์ปนทิ้งเพื่อให้ได้แปลงพันธุ์ที่บริสุทธิ์ | ||
กรณีการตรวจสอบพันธุ์ปนในแปลงขายต้นพันธุ์ ควรดำเนินการในช่วงก่อนการตัดต้นออกจากแปลงโดยใช้ลักษณะทรงต้น สีลำต้น ความนูนของรอยแผลก้านใบในการจำแนกพันธุ์เป็นหลัก วิธีการคือควรสุ่มตรวจอย่างน้อย 5 จุด จุดละ 100 ต้น ถ้าแปลงมีขนาด 25 ไร่ แล้วหาค่าเฉลี่ย โดยให้มีพันธุ์ปนได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ หากมีเปอร์เซ็นต์พันธุ์ปนสูงกว่านี้จะทำให้การคัดพันธุ์ปนทั้งหมดทิ้งหลังซื้อทำได้ยาก และต้องสิ้นเปลืองค่าแรงงานในการคัดพันธุ์ปนในแปลงปลูกใหม่ จึงไม่ควรจัดซื้อต้นพันธุ์จากแปลงดังกล่าว | |||
* '''วิธีการตรวจสอบพันธุ์ปนในกองต้นพันธุ์หรือหลังการตัดต้นพันธุ์''' | * '''วิธีการตรวจสอบพันธุ์ปนในกองต้นพันธุ์หรือหลังการตัดต้นพันธุ์''' | ||
บรรทัดที่ 43: | บรรทัดที่ 45: | ||
ในกรณีที่เป็นการซื้อต้นพันธุ์ที่ตัดไว้แล้ว สามารถตรวจสอบพันธุ์ปนในกองต้นพันธุ์ได้โดยใช้ลักษณะสีลำต้น และความนูนของรอยแผลก้านใบในการจำแนกพันธุ์เป็นหลัก โดยสุ่มจากมัดของต้นพันธุ์ที่อยู่ในกองมากองละ 4 มัด โดยปกติ 1 มัดจะมีต้นพันธุ์ 25 ลำ ดังนั้นจะได้ต้นพันธุ์ 100 ลำ แล้วตรวจสอบว่ามีจำนวนต้นพันธุ์ปนเท่าใด เพื่อคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์พันธุ์ปนของกองนั้น ๆ โดยไม่ควรมีพันธุ์ปนเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ กรณีที่ซื้อต้นพันธุ์ในปริมาณมากไม่สามารถตรวจสอบทุกกองได้ ควรสุ่มในปริมาณที่มากพอและทั่วถึงเพื่อให้เป็นตัวแทนของต้นพันธุ์ทั้งหมด | ในกรณีที่เป็นการซื้อต้นพันธุ์ที่ตัดไว้แล้ว สามารถตรวจสอบพันธุ์ปนในกองต้นพันธุ์ได้โดยใช้ลักษณะสีลำต้น และความนูนของรอยแผลก้านใบในการจำแนกพันธุ์เป็นหลัก โดยสุ่มจากมัดของต้นพันธุ์ที่อยู่ในกองมากองละ 4 มัด โดยปกติ 1 มัดจะมีต้นพันธุ์ 25 ลำ ดังนั้นจะได้ต้นพันธุ์ 100 ลำ แล้วตรวจสอบว่ามีจำนวนต้นพันธุ์ปนเท่าใด เพื่อคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์พันธุ์ปนของกองนั้น ๆ โดยไม่ควรมีพันธุ์ปนเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ กรณีที่ซื้อต้นพันธุ์ในปริมาณมากไม่สามารถตรวจสอบทุกกองได้ ควรสุ่มในปริมาณที่มากพอและทั่วถึงเพื่อให้เป็นตัวแทนของต้นพันธุ์ทั้งหมด | ||
นอกจากการตรวจสอบพันธุ์ปนแล้ว ควรตรวจสอบคุณภาพต้นพันธุ์ไปพร้อมกันด้วย เช่น ขนาดและความยาวของต้นพันธุ์ อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์หลังการตัด ความสมบูรณ์ของตา โรคและแมลงที่ติดมากับท่อนพันธุ์ เป็นต้น | กรณีพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ ควรสร้างแปลงขยายพันธุ์ดีไว้ใช้เองในพื้นที่ หรือขยายพันธุ์เพื่อแจกจ่ายเกษตรกรลูกไร่ของตน โดยเริ่มต้นจากการจัดซื้อพันธุ์ดีจากแหล่งที่เชื่อถือได้มาปลูก และจัดเจ้าหน้าที่หรือนักวิชาการเกษตรสำหรับคัดพันธุ์ปนทิ้งในช่วงที่มันสำปะหลังอายุประมาณ 1 – 2 เดือนหลังปลูก ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถจำแนกพันธุ์ได้ง่ายและทำได้สะดวกรวดเร็วกว่าช่วงที่มันสำปะหลังมีอายุมาก นอกจากการตรวจสอบพันธุ์ปนแล้ว ควรตรวจสอบคุณภาพต้นพันธุ์ไปพร้อมกันด้วย เช่น ขนาดและความยาวของต้นพันธุ์ อายุการเก็บรักษาต้นพันธุ์หลังการตัด ความสมบูรณ์ของตา โรคและแมลงที่ติดมากับท่อนพันธุ์ เป็นต้น | ||
[[ไฟล์:Image s2.png|center|thumb|'''ภาพที่ 3''' แสดงการตรวจสอบพันธุ์ปนและความสมบูรณ์ของต้นพันธุ์]] | |||
[[ไฟล์:Image s1.png|center|thumb|'''ภาพที่ 4''' แสดงการตรวจสอบพันธุ์ปนและความสมบูรณ์ของต้นพันธุ์]] | |||
== อ้างอิง == | == อ้างอิง == |
การแก้ไข