โรครากปมมันสำปะหลัง (cassava Root-knot)
เชื้อสาเหตุเกิดจากไส้เดือนฝอยรากปม Meloidogyne incognita
ลักษณะอาการ[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
เมื่อไส้เดือนฝอยเข้าทำลายส่วนของรากมันสำปะหลังจะแสดงอาการเป็นปุ่มปม และจะไม่ทำการสะสมอาหาร ในกรณีที่ถูกไส้เดือนฝอยเข้าทำลายรุนแรงจะพบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้ง หรือลำต้นเหี่ยว และอาจทำให้ยืนต้นตายได้ โดยสามารถส่งผลกระทบต่อผลผลิตได้ตั้งแต่ 70% ขึ้นไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)[1]
การแพร่ระบาด[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ไส้เดือนฝอยรากปมสามารถแพร่ระบาดได้ดีในพื้นที่เป็นดินร่วนปนทราย สามารถแพร่ระบาดไปได้กับระบบการให้น้ำ หรือไหลไปกับน้ำฝน รวมทั้งติดไปกับดิน หรือติดไปกับเครื่องมือการเกษตรต่างๆ เช่นล้อรถไถ จอบ และเครื่องมืออื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถติดไปกับรองเท้าของเกษตรกรได้เช่นกัน (นุชนารถ, 2016)[2]
การป้องกันกำจัด[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)[3]
- ↑ สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช. 2559. คู่มือการจัดการ ปัญหาศัตรูมันสำปะหลังแบบผสมผสาน. การันตี, กรุงเทพฯ.
- ↑ นุชนารถ ตั้งจิตสมคิด. 2016. โรครากปม. ที่มา: http://microorganism.expertdoa.com/disease_1_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A1.php. กรรมวิชาการเกษตร. วันที่ 5 พฤษภาคม 2564
- ↑ สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช. 2559. คู่มือการจัดการ ปัญหาศัตรูมันสำปะหลังแบบผสมผสาน. การันตี, กรุงเทพฯ.