ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง"

ไม่มีคำอธิบายอย่างย่อ
บรรทัดที่ 51: บรรทัดที่ 51:
จากต้นทุนการผลิตมันสําปะหลังทั้งหมด มีค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวถึง 34.15 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นค่าขนส่ง 24.39 เปอร์เซ็นต์<ref>สํานักงานเกษตรอําเภอลําสนธิจังหวัดลพบุรี. 2552. ต้นทุนการผลิตพืช.  Available from :<nowiki>http://lopburi.doae.go.th/lamsonti/tontun.htm</nowiki>.</ref> ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวเป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่สําคัญที่สุดของต้นทุนการผลิตมันสําปะหลัง ทั้งนี้อาจเนื่องจากวิธีการเก็บเกี่ยวมันสําปะหลัง ส่วนใหญ่ใช้แรงงานคนในการขุดด้วยจอบ หรือใช้คานงัดถ้าหากดินมีความชื้นหรือพื้นที่ปลูกเป็นดินทรายมีความร่วนซุยมากก็อาจใช้วิธีการถอน และสําหรับพื้นที่ซึ่งเก็บเกี่ยวในหน้าแล้งดินแห้งหรือแข็งก็จะใช้จอบขุดแบบประยุกต์เพื่อช่วยทุ่นแรง หลังจากนั้นก็มีการสับหัวมันออกจากเหง้าแล้วขนส่งด้วยรถบรรทุกเข้าสู่โรงงานแปรสภาพต่อไป
จากต้นทุนการผลิตมันสําปะหลังทั้งหมด มีค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวถึง 34.15 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นค่าขนส่ง 24.39 เปอร์เซ็นต์<ref>สํานักงานเกษตรอําเภอลําสนธิจังหวัดลพบุรี. 2552. ต้นทุนการผลิตพืช.  Available from :<nowiki>http://lopburi.doae.go.th/lamsonti/tontun.htm</nowiki>.</ref> ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวเป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่สําคัญที่สุดของต้นทุนการผลิตมันสําปะหลัง ทั้งนี้อาจเนื่องจากวิธีการเก็บเกี่ยวมันสําปะหลัง ส่วนใหญ่ใช้แรงงานคนในการขุดด้วยจอบ หรือใช้คานงัดถ้าหากดินมีความชื้นหรือพื้นที่ปลูกเป็นดินทรายมีความร่วนซุยมากก็อาจใช้วิธีการถอน และสําหรับพื้นที่ซึ่งเก็บเกี่ยวในหน้าแล้งดินแห้งหรือแข็งก็จะใช้จอบขุดแบบประยุกต์เพื่อช่วยทุ่นแรง หลังจากนั้นก็มีการสับหัวมันออกจากเหง้าแล้วขนส่งด้วยรถบรรทุกเข้าสู่โรงงานแปรสภาพต่อไป


         จากผลการศึกษาของ A. B. Sukra (1996)<ref name=":0" /> พบว่าขั้นตอนที่ต้องการแรงงานมากที่สุดเป็นขั้นตอนการเก็บเกี่ยวและรวบรวมหัวมันขึ้นรถบรรทุก โดยต้องการแรงงานเท่ากับ 54.5 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมดในการผลิตมันสําปะหลัง
         จากผลการศึกษาของ A. B. Sukra (1996)<ref name=":0" /> พบว่าขั้นตอนที่ต้องการแรงงานมากที่สุดเป็นขั้นตอนการเก็บเกี่ยวและรวบรวมหัวมันขึ้นรถบรรทุก โดยต้องการแรงงานเท่ากับ 54.5 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมดในการผลิตมันสําปะหลัง


         เนื่องจากการเก็บเกี่ยวมันสําปะหลัง ต้องใช้แรงงานจํานวนมากเช่น โรงงานผลิตแป้งมันขนาด 150 ตันแป้ง/วัน ต้องใช้หัวมันสําปะหลังสด 650–750 ตัน ซึ่งต้องใช้คนขุด 650–750 คนต่อวัน เป็นต้น<ref>ศุภวัฒน์ ปากเมย. 2540. การออกแบบและประเมินผลเครื่องขุดมันสําปะหลัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องจักรกลเกษตรคณะวิศวกรรมศาสตร์. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.</ref> จากการศึกษาลักษณะของแรงงานที่ใช้ในการดําเนินงานภายหลังเก็บเกี่ยว<ref>เชิดพงษ์ เชี่ยวชาญวัฒนา. 2549. การออกแบบและทดสอบอุปกรณ์ช่วยขนย้ายมันสําปะหลังขึ้นรถบรรทุก. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องจักรกลเกษตรคณะวิศวกรรมศาสตร์. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.</ref> พบว่าโดยทั่วไปเป็นแรงงานภายในหมู่บ้านของเกษตรกรเอง และหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งแรงงานวัยทํางานทั้งเพศชายและหญิง และแรงงานเด็กการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ของเกษตรกรรายย่อย โดยทั่วไปจะเก็บเกี่ยวโดยใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลักในการดําเนินการจึงมีอัตราการเก็บเกี่ยวช้าและต้องรอรวบรวมผลผลิตหัวมันสดให้เต็มรถบรรทุกเพื่อประหยัดค่าขนส่งโดยทั่วไปใช้เวลารวบรวมประมาณ 1-3 วัน
         เนื่องจากการเก็บเกี่ยวมันสําปะหลัง ต้องใช้แรงงานจํานวนมากเช่น โรงงานผลิตแป้งมันขนาด 150 ตันแป้ง/วัน ต้องใช้หัวมันสําปะหลังสด 650–750 ตัน ซึ่งต้องใช้คนขุด 650–750 คนต่อวัน เป็นต้น<ref>ศุภวัฒน์ ปากเมย. 2540. การออกแบบและประเมินผลเครื่องขุดมันสําปะหลัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องจักรกลเกษตรคณะวิศวกรรมศาสตร์. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.</ref> จากการศึกษาลักษณะของแรงงานที่ใช้ในการดําเนินงานภายหลังเก็บเกี่ยว<ref>เชิดพงษ์ เชี่ยวชาญวัฒนา. 2549. การออกแบบและทดสอบอุปกรณ์ช่วยขนย้ายมันสําปะหลังขึ้นรถบรรทุก. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องจักรกลเกษตรคณะวิศวกรรมศาสตร์. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.</ref> พบว่าโดยทั่วไปเป็นแรงงานภายในหมู่บ้านของเกษตรกรเอง และหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งแรงงานวัยทํางานทั้งเพศชายและหญิง และแรงงานเด็กการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ของเกษตรกรรายย่อย โดยทั่วไปจะเก็บเกี่ยวโดยใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลักในการดําเนินการจึงมีอัตราการเก็บเกี่ยวช้าและต้องรอรวบรวมผลผลิตหัวมันสดให้เต็มรถบรรทุกเพื่อประหยัดค่าขนส่งโดยทั่วไปใช้เวลารวบรวมประมาณ 1-3 วัน


== '''การขุดเก็บเกี่ยว''' ==
== '''การขุดเก็บเกี่ยว''' ==
บรรทัดที่ 84: บรรทัดที่ 84:
การขุดเก็บเกี่ยวและขนส่งผลผลิตออกไปสู่โรงงานเป็นขั้นตอนสุดท้ายในระบบการผลิตมันสำปะหลังซึ่งมีต้นทุนการจัดการสูงคิดเป็น 30-40 เปอร์เซ็นต์ของขั้นตอนการผลิตทั้งระบบ วิธีการขุดเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมในแปลงผลิตขนาดใหญ่มี 3 วิธี ดังนี้  
การขุดเก็บเกี่ยวและขนส่งผลผลิตออกไปสู่โรงงานเป็นขั้นตอนสุดท้ายในระบบการผลิตมันสำปะหลังซึ่งมีต้นทุนการจัดการสูงคิดเป็น 30-40 เปอร์เซ็นต์ของขั้นตอนการผลิตทั้งระบบ วิธีการขุดเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมในแปลงผลิตขนาดใหญ่มี 3 วิธี ดังนี้  


'''วิธีที่ 1 ขุดหัวมันสำปะหลังโดยถอนทั้งต้น รวมกอง สับหัว และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้แรงงานคนทั้งหมด'''
'''''วิธีที่ 1 ขุดหัวมันสำปะหลังโดยถอนทั้งต้น รวมกอง สับหัว และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้แรงงานคนทั้งหมด'''''


วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีโครงสร้างดินร่วนซุย ไม่แน่นแข็ง หรือกรณีที่ขุดเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูฝนซึ่งดินมีความชื้นสูง และไม่มีปัญหาด้านแรงงานหรือแรงงานมีราคาถูก ทำได้โดยใช้แรงงานคนถอนมันสำปะหลังทั้งต้นโดยไม่ต้องตัดต้นพันธุ์ออกก่อน แล้ววางให้เป็นแถวเพื่อสะดวกในการสับหัวออกจากเหง้า จากนั้นจึงใช้คนแบกขึ้นรถบรรทุก โดยเฉลี่ยมันสำปะหลังที่ให้ผลผลิตประมาณ 4 ตัน/ไร่ ต้องใช้แรงงานประมาณ 6-8 แรง วิธีนี้จึงใช้แรงงานมากและทำได้ช้า จึงแนะนำให้ใช้ในกรณีที่รถไถขุดไม่สามารถเข้าทำงานในแปลงได้ และควรใช้ระบบการจ้างเหมาต่อน้ำหนักหัวสดที่ขุดเก็บเกี่ยวได้ จะช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนขุดเก็บเกี่ยวได้
วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีโครงสร้างดินร่วนซุย ไม่แน่นแข็ง หรือกรณีที่ขุดเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูฝนซึ่งดินมีความชื้นสูง และไม่มีปัญหาด้านแรงงานหรือแรงงานมีราคาถูก ทำได้โดยใช้แรงงานคนถอนมันสำปะหลังทั้งต้นโดยไม่ต้องตัดต้นพันธุ์ออกก่อน แล้ววางให้เป็นแถวเพื่อสะดวกในการสับหัวออกจากเหง้า จากนั้นจึงใช้คนแบกขึ้นรถบรรทุก โดยเฉลี่ยมันสำปะหลังที่ให้ผลผลิตประมาณ 4 ตัน/ไร่ ต้องใช้แรงงานประมาณ 6-8 แรง วิธีนี้จึงใช้แรงงานมากและทำได้ช้า จึงแนะนำให้ใช้ในกรณีที่รถไถขุดไม่สามารถเข้าทำงานในแปลงได้ และควรใช้ระบบการจ้างเหมาต่อน้ำหนักหัวสดที่ขุดเก็บเกี่ยวได้ จะช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนขุดเก็บเกี่ยวได้


'''วิธีที่ 2 ขุดหัวโดยใช้เครื่องขุด รวบรวมหัว สับหัว และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้แรงงานคน'''
'''''วิธีที่ 2 ขุดหัวโดยใช้เครื่องขุด รวบรวมหัว สับหัว และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้แรงงานคน'''''


วิธีนี้เหมาะสำหรับการขุดในพื้นที่ที่ดินแน่นแข็ง ความชื้นในดินต่ำ หรือการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้ง โดยต้องตัดต้นพันธุ์และขนออกจากแปลงก่อน โดยทั่วไปแรงงาน 1 คน สามารถตัดต้นพันธุ์ได้ประมาณ 2,000 ลำ ดังนั้นพื้นที่ขนาด 1 ไร่ ต้องใช้แรงงานตัดประมาณ 1.5-2 แรง หรือ 150-200 แรงต่อพื้นที่ 100 ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการตัดในแต่ละพันธุ์และความหนาแน่นของประชากรที่ปลูก แล้วใช้รถไถติดเครื่องขุดหัวมันสำปะหลังทำการไถขุดให้หัวมันสำปะหลังขึ้นมาอยู่บนผิวดิน จากนั้นจึงใช้แรงงานคนเก็บรวมกอง สับหัวออกจากเหง้า แล้วใช้แรงงานคนแบกขึ้นรถบรรทุกเพื่อส่งเข้าโรงงานต่อไป
วิธีนี้เหมาะสำหรับการขุดในพื้นที่ที่ดินแน่นแข็ง ความชื้นในดินต่ำ หรือการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้ง โดยต้องตัดต้นพันธุ์และขนออกจากแปลงก่อน โดยทั่วไปแรงงาน 1 คน สามารถตัดต้นพันธุ์ได้ประมาณ 2,000 ลำ ดังนั้นพื้นที่ขนาด 1 ไร่ ต้องใช้แรงงานตัดประมาณ 1.5-2 แรง หรือ 150-200 แรงต่อพื้นที่ 100 ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการตัดในแต่ละพันธุ์และความหนาแน่นของประชากรที่ปลูก แล้วใช้รถไถติดเครื่องขุดหัวมันสำปะหลังทำการไถขุดให้หัวมันสำปะหลังขึ้นมาอยู่บนผิวดิน จากนั้นจึงใช้แรงงานคนเก็บรวมกอง สับหัวออกจากเหง้า แล้วใช้แรงงานคนแบกขึ้นรถบรรทุกเพื่อส่งเข้าโรงงานต่อไป
บรรทัดที่ 94: บรรทัดที่ 94:
วิธีนี้ช่วยให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น และช่วยลดจำนวนแรงงาน สำหรับประสิทธิภาพการทำงานของรถไถติดเครื่องขุดหัวมันสำปะหลัง 1 คัน สามารถทำงานได้ประมาณ 12-15 ไร่ ดังนั้นหากมีพื้นที่ 100 ไร่ จำเป็นต้องใช้รถขุดเก็บเกี่ยวประมาณ 6-7 คัน
วิธีนี้ช่วยให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น และช่วยลดจำนวนแรงงาน สำหรับประสิทธิภาพการทำงานของรถไถติดเครื่องขุดหัวมันสำปะหลัง 1 คัน สามารถทำงานได้ประมาณ 12-15 ไร่ ดังนั้นหากมีพื้นที่ 100 ไร่ จำเป็นต้องใช้รถขุดเก็บเกี่ยวประมาณ 6-7 คัน


'''วิธีที่ 3 ขุดหัวโดยใช้เครื่องขุด รวบรวมหัวและสับหัวโดยใช้แรงงานคน และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้รถตัก'''
'''''วิธีที่ 3 ขุดหัวโดยใช้เครื่องขุด รวบรวมหัวและสับหัวโดยใช้แรงงานคน และขนขึ้นรถบรรทุกโดยใช้รถตัก'''''


วิธีการทำเช่นเดียวกับวิธีที่ 2 แต่ในขั้นตอนการขนหัวมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุกจะใช้เครื่องลำเลียงหัวมันสำปะหลังหรือใช้รถตักแทนการใช้แรงงานคนแบก ทำให้ประหยัดแรงงานในขั้นตอนการแบก และทำงานได้เร็วขึ้น การใช้รถตักสามารถยกหัวมันสำปะหลังใส่รถบรรทุกได้ครั้งละ 300-500 กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับขนาดของตัก) ซึ่งสามารถใช้รถไถที่มีอยู่ติดอุปกรณ์ตักหัวมันสำปะหลังทางด้านหน้า โดยไม่จำเป็นต้องจัดหารถไถคันใหม่
วิธีการทำเช่นเดียวกับวิธีที่ 2 แต่ในขั้นตอนการขนหัวมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุกจะใช้เครื่องลำเลียงหัวมันสำปะหลังหรือใช้รถตักแทนการใช้แรงงานคนแบก ทำให้ประหยัดแรงงานในขั้นตอนการแบก และทำงานได้เร็วขึ้น การใช้รถตักสามารถยกหัวมันสำปะหลังใส่รถบรรทุกได้ครั้งละ 300-500 กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับขนาดของตัก) ซึ่งสามารถใช้รถไถที่มีอยู่ติดอุปกรณ์ตักหัวมันสำปะหลังทางด้านหน้า โดยไม่จำเป็นต้องจัดหารถไถคันใหม่
บรรทัดที่ 105: บรรทัดที่ 105:
Wheatley and Schwabe (1985<ref name=":7">Wheatley, C.C. and W.W. Schwabe. (1985). Scopoletin Involvement in Post-Harvest Physiological Deterioration of Cassava Root (''Manihot esculenta'' Crantz). Journal of Experimental Botany. 36(5):783-791.</ref>) ได้แบ่งขั้นตอนการเสื่อมคุณภาพของหัวมันสําปะหลังออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ
Wheatley and Schwabe (1985<ref name=":7">Wheatley, C.C. and W.W. Schwabe. (1985). Scopoletin Involvement in Post-Harvest Physiological Deterioration of Cassava Root (''Manihot esculenta'' Crantz). Journal of Experimental Botany. 36(5):783-791.</ref>) ได้แบ่งขั้นตอนการเสื่อมคุณภาพของหัวมันสําปะหลังออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ


=== '''การเสื่อมคุณภาพทางสรีระวิทยา (Phisiological Deterioration)''' ===
'''การเสื่อมคุณภาพทางสรีระวิทยา (Phisiological Deterioration)'''
 
เกิดขึ้นเนื่องจากการอุดตันของท่อน้ำโดยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารประกอบคล้ายลิกนิน รวมทั้งการสร้างสารประกอบเรืองแสงในเนื้อเยื่อ parenchyma โดยในระยะแรกจะตรวจพบสารประกอบ phenolic, leucoanthocyanin และcathechin ในท่อน้ำ ซึ่งสารประกอบเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปไปเป็นแทนนิน ทําให้เห็นสีฟ้าเงินและดํา และในส่วนของเนื้อเยื่อ parenchyma ก็พบ scopoletin และ coumarin โดยในหัวสดจะพบ scopoletin เพียงเล็กน้อยและพบในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเก็บเกี่ยว (จากน้อยกว่า 1.0 ไมโครกรัมต่อกรัม เป็นมากกว่า250 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) และพบว่าถ้าหากมีการให้ scopoletin แก่หัวมันสําปะหลังสดจะทําให้หัวมันสดมีการเสื่อมสภาพทางสรีรวิทยาอย่างรวดเร็ว ในหัวมันสําปะหลังสดที่มีการเสื่อมสภาพช้าพบว่ามีการสะสมของ scopoletin น้อยกว่าหัวที่เสื่อมคุณภาพเร็ว
เกิดขึ้นเนื่องจากการอุดตันของท่อน้ำโดยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารประกอบคล้ายลิกนิน รวมทั้งการสร้างสารประกอบเรืองแสงในเนื้อเยื่อ parenchyma โดยในระยะแรกจะตรวจพบสารประกอบ phenolic, leucoanthocyanin และcathechin ในท่อน้ำ ซึ่งสารประกอบเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปไปเป็นแทนนิน ทําให้เห็นสีฟ้าเงินและดํา และในส่วนของเนื้อเยื่อ parenchyma ก็พบ scopoletin และ coumarin โดยในหัวสดจะพบ scopoletin เพียงเล็กน้อยและพบในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเก็บเกี่ยว (จากน้อยกว่า 1.0 ไมโครกรัมต่อกรัม เป็นมากกว่า250 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) และพบว่าถ้าหากมีการให้ scopoletin แก่หัวมันสําปะหลังสดจะทําให้หัวมันสดมีการเสื่อมสภาพทางสรีรวิทยาอย่างรวดเร็ว ในหัวมันสําปะหลังสดที่มีการเสื่อมสภาพช้าพบว่ามีการสะสมของ scopoletin น้อยกว่าหัวที่เสื่อมคุณภาพเร็ว


=== '''การเสื่อมคุณภาพเนื่องจากการเข้าทําลายของจุลินทรีย์''' ===
'''การเสื่อมคุณภาพเนื่องจากการเข้าทําลายของจุลินทรีย์'''
 
ซึ่งทําให้หัวเน่าโดยจุลินทรีย์จะเข้าทําลายหัวมันสําปะหลังภายใน 5-7 วันหลังเก็บเกี่ยวดังนั้นอาจเห็นแถบสีฟ้าเงินดําเกิดขึ้นเช่นเดียวกันโดยจะพบในบริเวณทั่วไปที่สดและอ่อนนุ่มของหัว ซึ่งแตกต่างจากการเสื่อมคุณภาพทางสรีรวิทยาที่จะเห็นเนื้อเยื่อสีฟ้าเงินดําในส่วนของท่อน้ำ (Xylem)   
ซึ่งทําให้หัวเน่าโดยจุลินทรีย์จะเข้าทําลายหัวมันสําปะหลังภายใน 5-7 วันหลังเก็บเกี่ยวดังนั้นอาจเห็นแถบสีฟ้าเงินดําเกิดขึ้นเช่นเดียวกันโดยจะพบในบริเวณทั่วไปที่สดและอ่อนนุ่มของหัว ซึ่งแตกต่างจากการเสื่อมคุณภาพทางสรีรวิทยาที่จะเห็นเนื้อเยื่อสีฟ้าเงินดําในส่วนของท่อน้ำ (Xylem)   


บรรทัดที่ 127: บรรทัดที่ 129:
Production in Thailand. AIT Diss No. AE…(In process). Asian Institute of Technology.</ref> ทั้งนี้เนื่องจากใช้แรงงานคนเป็นหลัก เพื่อการขุดหรือถอน การตัดส่วนที่เป็นหัวออกจากโคนต้น และรวบรวมขึ้นรถบรรทุกเพื่อการขนย้ายไปจำหน่าย และประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานเช่นเดียวกับการผลิตพืชอื่นในภาคเกษตร เนื่องจากแรงงานเคลื่อนย้ายสู่นอกภาคเกษตร ทั้งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ค่าจ้างแรงงานในภาคเกษตรสูงขึ้นเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต
Production in Thailand. AIT Diss No. AE…(In process). Asian Institute of Technology.</ref> ทั้งนี้เนื่องจากใช้แรงงานคนเป็นหลัก เพื่อการขุดหรือถอน การตัดส่วนที่เป็นหัวออกจากโคนต้น และรวบรวมขึ้นรถบรรทุกเพื่อการขนย้ายไปจำหน่าย และประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานเช่นเดียวกับการผลิตพืชอื่นในภาคเกษตร เนื่องจากแรงงานเคลื่อนย้ายสู่นอกภาคเกษตร ทั้งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ค่าจ้างแรงงานในภาคเกษตรสูงขึ้นเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต


=== '''รถแทรกเตอร์ต้นกำลังในกระบวนการผลิตมันสำปะหลัง'''   ===
 
'''รถแทรกเตอร์ต้นกำลังในกระบวนการผลิตมันสำปะหลัง'''
 
ต้นกำลังที่ใช้ในกระบวนการปลูกมันสำปะหลัง ทำหน้าที่ตั้งแต่กระบวนการเตรียมดิน การปลูก ดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยวเป็นรถแทรกเตอร์นั่งขับแบบ 4 ล้อ ขนาด 35-90 แรงม้าเป็นต้น (ชัยยันต์, 2560)<ref name=":5" />
ต้นกำลังที่ใช้ในกระบวนการปลูกมันสำปะหลัง ทำหน้าที่ตั้งแต่กระบวนการเตรียมดิน การปลูก ดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยวเป็นรถแทรกเตอร์นั่งขับแบบ 4 ล้อ ขนาด 35-90 แรงม้าเป็นต้น (ชัยยันต์, 2560)<ref name=":5" />


=== '''เครื่องขุดมันสำปะหลัง''' ===
'''เครื่องขุดมันสำปะหลัง'''
 
กระบวนการปลูกมันสำปะหลังในปัจจุบัน ใช้รถแทรกเตอร์เป็นต้นกำลังในการเตรียมดินและมีลักษณะการปลูกแบบยกร่องและปักท่อนพันธ์เป็นเส้นตรงตามความยาวของแถว เครื่องขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่จึงออกแบบมาให้ใช้ในการขุดแบบเปิดหรือระเบิดดินออกด้านข้างเพื่อให้หัวมันและเหง้ามันสำปะหลังขึ้นมาอยู่ด้านบนผิวดิน ซึ่งการออกแบบหัวขุดในปัจจุบันมีหลากหลายรูปทรง เช่น ทรงเหลี่ยม ครึ่งวงกลม แบบหัวหมู และทำมุมการขุดอยู่ระหว่าง 30-33 องศา<ref>สามารถ บุญอาจ. 2543. การออกแบบและพัฒนาเครื่องเก็บหัวมันสำปะหลังแบบติดพ่วงกับรถแทรกเตอร์.  วิทยานิพนธ์ปริญญาโท.  สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.</ref>
กระบวนการปลูกมันสำปะหลังในปัจจุบัน ใช้รถแทรกเตอร์เป็นต้นกำลังในการเตรียมดินและมีลักษณะการปลูกแบบยกร่องและปักท่อนพันธ์เป็นเส้นตรงตามความยาวของแถว เครื่องขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่จึงออกแบบมาให้ใช้ในการขุดแบบเปิดหรือระเบิดดินออกด้านข้างเพื่อให้หัวมันและเหง้ามันสำปะหลังขึ้นมาอยู่ด้านบนผิวดิน ซึ่งการออกแบบหัวขุดในปัจจุบันมีหลากหลายรูปทรง เช่น ทรงเหลี่ยม ครึ่งวงกลม แบบหัวหมู และทำมุมการขุดอยู่ระหว่าง 30-33 องศา<ref>สามารถ บุญอาจ. 2543. การออกแบบและพัฒนาเครื่องเก็บหัวมันสำปะหลังแบบติดพ่วงกับรถแทรกเตอร์.  วิทยานิพนธ์ปริญญาโท.  สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.</ref>
    
    
การพัฒนาเครื่องมือในการเก็บเกี่ยวหรือที่เรียกว่า”เครื่องขุดมันสำปะหลัง”ในปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในด้านการออกแบบ วัสดุ รูปทรง และเครื่องต้นกำลัง โดยทั้งหมดนั้นมีเป้าหมายเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเกษตรกรจะยึดกับเครื่องต้นกำลังนั่นคือรถแทรกเตอร์ โดยรถแทรกเตอร์มีบทบาทในกระบวนการปลูกมันสำปะหลังหลายกระบวนการ ดังนั้นจึงพบว่าเครื่องขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่จึงเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งในรถแทรกเตอร์ชนิดของการต่อเชื่อมกับรถแทรกเตอร์แบบลากจูงเป็นหลัก<ref name=":5" />


อนุชิต (2553)<ref>อนุชิต ฉ่ำสิงห์. 2553. โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องขุดเก็บมันสำปะหลังและเครื่องมือตัดหัวมันสำปะหลังจากเหง้า. กรมวิชาการเกษตร.</ref> รายงานว่าปัญหาระบบการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงสุดในระบบการผลิตมันสำปะหลัง อันเนื่องมากจากต้องใช้แรงงานคนเป็นหลักและประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 กิจกรรม คือ  พัฒนาเครื่องขุด และเก็บหัวมันสำปะหลังแบบพ่วงติดท้ายรถแทรกเตอร์ ขนาด 50 แรงม้า เพื่อให้สามารถทำการขุดและเก็บรวมกองเหง้ามันสำปะหลังในคราวเดียวกัน ดำเนินการโดยสร้างชุดทดสอบ ออกแบบ สร้างและปรับปรุงแก้ไขเครื่องต้นแบบ มีส่วนประกอบหลักคือส่วนผาลขุด ส่วนการหนีบลำเลียง และกระบะบรรทุกชนิดลากพ่วง ทำงานโดยเหง้ามันสำปะหลังจะถูกขุดด้วยส่วนผาลขุด แล้วจะถูกหนีบจับและลำเลียงส่งมายังส่วนกระบะบรรทุก เพื่อนำมาเทรวมกองสำหรับการตัดหัวออกจากเหง้า ทั้งระบบการเก็บเกี่ยวมีอัตราการทำงาน 0.39 ไร่/ชั่วโมง สามารถลดแรงงานได้ 4.5 เท่า ของระบบการเก็บเกี่ยวเดิมที่ใช้แรงงานคนทุกขั้นตอน ผลการวิเคราะห์การลงทุนที่อายุการใช้งาน 7 ปี เพื่อทดแทนระบบการเก็บเกี่ยวแบบใช้แรงงานคนทั้งหมด แบบใช้เครื่องขุดมันสำปะหลังร่วมกับการใช้แรงงานคน และการจ้างเหมาขุด


วิจัยและพัฒนาเครื่องมือตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้า เพื่อลดการใช้แรงงาน และเพิ่มความสามารถในการตัดตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้าภายหลังการขุดหัวและเหง้ามันสำปะหลังขึ้นมาจากดิน ซึ่งเป็นปัญหาลักษณะคอขวดที่สำคัญในระบบการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ดำเนินการโดยศึกษา เลือกใช้ และพัฒนาส่วนการตัดและส่วนการขับใบตัด ผลการศึกษาและพัฒนาได้เครื่องมือตัดแบบใบเลื่อยชักระบบนิวแมติกส์ มีความสามารถในการตัด 615 กิโลกรัม/ชั่วโมง ใกล้เคียงกับการตัดด้วยแรงงานหญิงในระบบการตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้าของระบบปฏิบัติเดิม ช่วยลดความเหนื่อยยากของแรงงาน แต่ต้นทุนสูงกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อเพื่อเพิ่มความสมารถในการทำงานและมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นต่อไป


การพัฒนาเครื่องมือในการเก็บเกี่ยวหรือที่เรียกว่า”เครื่องขุดมันสำปะหลัง”ในปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในด้านการออกแบบ วัสดุ รูปทรง และเครื่องต้นกำลัง โดยทั้งหมดนั้นมีเป้าหมายเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเกษตรกรจะยึดกับเครื่องต้นกำลังนั่นคือรถแทรกเตอร์ โดยรถแทรกเตอร์มีบทบาทในกระบวนการปลูกมันสำปะหลังหลายกระบวนการ ดังนั้นจึงพบว่าเครื่องขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่จึงเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งในรถแทรกเตอร์ชนิดของการต่อเชื่อมกับรถแทรกเตอร์แบบลากจูงเป็นหลัก<ref name=":5" />


'''การพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังแบบเบ็ดเสร็จของไทย'''


การพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในปัจจุบัน เป็นการนำเอาขั้นตอนของการขุด การลำเลียง และขนย้ายเหง้ามันสำปะหลัง ติดตั้งและทำงานพร้อมกันในเครื่องเดียวกัน เริ่มต้นด้วยระบบการขุดเป็นการนำหัวขุดหรือผาลขุดติดตั้งในโครงไถที่สร้างขึ้นและเชื่อมต่อกับรถแทรกเตอร์ในระบบการต่อพ่วงแบบ 3 จุด Three-Point Hitch ทำหน้าที่ในการขุดเปิดร่องแยกมวลดินและเหง้ามันสำปะหลังออกจากกัน ระบบลำเลียงออกแบบเป็นลักษณะโซ่ปีกทำงานร่วมกับสายพานหรือแผ่นยางป้องกันการลื่นและช่วยสร้างแรงยึดเกาะ โดยใช้โซ่ปีกจำนวน 2 ชุด ทำงานโดยการหมุนในทิศทางตรงข้ามกัน<ref>วิชา หมั่นทำการ. 2552. เครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง. ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: <nowiki>http://www.rdi.ku.ac.th</nowiki>. (30 กันยายน 2553).</ref> ด้วยชุดเฟืองขับจากปั้มไฮดรอลิกส์ต่อผ่านระบบเพลาอำนวยกำลัง PTO เรียกลักษณะการลำเลียงแบบนี้ว่าการคีบ ซึ่งจะใช้ส่วนของลำต้นเหนือพื้นดินหลังการตัดต้นเป็นตำแหน่งในการคีบ ชุดโซ่ลำเลียงนี้จะต่อร่วมกับระบบการขุด เพื่อลำเลียงเหง้าพร้อมหัวมันสำปะหลังไปยังอุปกรณ์ขนย้ายที่มีลักษณะเป็นกระบะบรรทุกแบบมีล้อ ต่อพ่วงแบบกึ่งลากจูงกับชุดโครงขุดและลำเลียง เมื่อทำการเก็บเกี่ยวจนเต็มกระบะบรรทุกจะทำการเทรวมกองกันไว้เป็นจุดๆ เพื่อใช้แรงงานคนในการสับแยกเหง้าและลำเลียงขึ้นรถบรรทุกต่อไป จึงสรุปได้ว่ายังไม่สามารถช่วยลดการใช้แรงงานในกระบวนการขนย้ายรวมกอง และสับแยกเหง้าได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ระบบการลำเลียงที่กล่าวมานั้นมีชิ้นส่วนทางกลที่ต้องการการปรับตั้ง การหล่อลื่น การบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่งในการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังจะมีฝุ่นละออง เศษวัสดุจำนวนมากส่งผลต่ออายุการใช้งานของระบบโซ่ลำเลียง รวมถึงความยาวของรถแทรกเตอร์ต้นกำลังรวมกับอุปกรณ์การขุด ระบบลำเลียงเหง้าและอุปกรณ์การขนย้ายเหง้ามันสำปะหลังที่มีการใช้งานแบบต่อพ่วงกึ่งลากจูง เมื่อทำการเก็บเกี่ยวจริงจะต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยวหัวงานมากเป็นพิเศษ ซึ่งไม่สะดวกในการทำการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ที่หน้ากว้างของแปลงปลูกไม่สม่ำเสมอ และระบบการตัดแยกเหง้า ถือเป็นกลไกที่มีความสำคัญประการสุดท้ายของเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังเนื่องจากเครื่องเก็บเกี่ยวที่กล่าวมาข้างต้นยังคงต้องใช้แรงงานคนในการตัดแยกเหง้า หากเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังมีกระบวนการครบถ้วนและสามารถลดการใช้แรงงานคนได้จริง ต้องทำงานได้ครบบริบทในการขุด ลำเลียง และแยกเหง้า ไปในกระบวนการเดียวกัน แต่ในปัจจุบันมีการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการแยกเหง้าเพียงในระดับห้องปฏิบัติการเท่านั้น<ref name=":5" />




อนุชิต (2553)<ref>อนุชิต ฉ่ำสิงห์. 2553. โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องขุดเก็บมันสำปะหลังและเครื่องมือตัดหัวมันสำปะหลังจากเหง้า. กรมวิชาการเกษตร.</ref> รายงานว่าปัญหาระบบการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงสุดในระบบการผลิตมันสำปะหลัง อันเนื่องมากจากต้องใช้แรงงานคนเป็นหลักและประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 กิจกรรม คือ  พัฒนาเครื่องขุด และเก็บหัวมันสำปะหลังแบบพ่วงติดท้ายรถแทรกเตอร์ ขนาด 50 แรงม้า เพื่อให้สามารถทำการขุดและเก็บรวมกองเหง้ามันสำปะหลังในคราวเดียวกัน ดำเนินการโดยสร้างชุดทดสอบ ออกแบบ สร้างและปรับปรุงแก้ไขเครื่องต้นแบบ มีส่วนประกอบหลักคือส่วนผาลขุด ส่วนการหนีบลำเลียง และกระบะบรรทุกชนิดลากพ่วง ทำงานโดยเหง้ามันสำปะหลังจะถูกขุดด้วยส่วนผาลขุด แล้วจะถูกหนีบจับและลำเลียงส่งมายังส่วนกระบะบรรทุก เพื่อนำมาเทรวมกองสำหรับการตัดหัวออกจากเหง้า ทั้งระบบการเก็บเกี่ยวมีอัตราการทำงาน 0.39 ไร่/ชั่วโมง สามารถลดแรงงานได้ 4.5 เท่า ของระบบการเก็บเกี่ยวเดิมที่ใช้แรงงานคนทุกขั้นตอน ผลการวิเคราะห์การลงทุนที่อายุการใช้งาน 7 ปี เพื่อทดแทนระบบการเก็บเกี่ยวแบบใช้แรงงานคนทั้งหมด แบบใช้เครื่องขุดมันสำปะหลังร่วมกับการใช้แรงงานคน และการจ้างเหมาขุด
'''เครื่องลำเลียงมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก'''
 
วิจัยและพัฒนาเครื่องมือตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้า เพื่อลดการใช้แรงงาน และเพิ่มความสามารถในการตัดตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้าภายหลังการขุดหัวและเหง้ามันสำปะหลังขึ้นมาจากดิน ซึ่งเป็นปัญหาลักษณะคอขวดที่สำคัญในระบบการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ดำเนินการโดยศึกษา เลือกใช้ และพัฒนาส่วนการตัดและส่วนการขับใบตัด ผลการศึกษาและพัฒนาได้เครื่องมือตัดแบบใบเลื่อยชักระบบนิวแมติกส์ มีความสามารถในการตัด 615 กิโลกรัม/ชั่วโมง ใกล้เคียงกับการตัดด้วยแรงงานหญิงในระบบการตัดหัวมันสำปะหลังออกจากเหง้าของระบบปฏิบัติเดิม ช่วยลดความเหนื่อยยากของแรงงาน แต่ต้นทุนสูงกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อเพื่อเพิ่มความสมารถในการทำงานและมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นต่อไป
 
=== '''การพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังแบบเบ็ดเสร็จของไทย''' ===
การพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในปัจจุบัน เป็นการนำเอาขั้นตอนของการขุด การลำเลียง และขนย้ายเหง้ามันสำปะหลัง ติดตั้งและทำงานพร้อมกันในเครื่องเดียวกัน เริ่มต้นด้วยระบบการขุดเป็นการนำหัวขุดหรือผาลขุดติดตั้งในโครงไถที่สร้างขึ้นและเชื่อมต่อกับรถแทรกเตอร์ในระบบการต่อพ่วงแบบ 3 จุด Three-Point Hitch ทำหน้าที่ในการขุดเปิดร่องแยกมวลดินและเหง้ามันสำปะหลังออกจากกัน ระบบลำเลียงออกแบบเป็นลักษณะโซ่ปีกทำงานร่วมกับสายพานหรือแผ่นยางป้องกันการลื่นและช่วยสร้างแรงยึดเกาะ โดยใช้โซ่ปีกจำนวน 2 ชุด ทำงานโดยการหมุนในทิศทางตรงข้ามกัน<ref>วิชา หมั่นทำการ. 2552. เครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง. ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: <nowiki>http://www.rdi.ku.ac.th</nowiki>. (30 กันยายน 2553).</ref> ด้วยชุดเฟืองขับจากปั้มไฮดรอลิกส์ต่อผ่านระบบเพลาอำนวยกำลัง PTO เรียกลักษณะการลำเลียงแบบนี้ว่าการคีบ ซึ่งจะใช้ส่วนของลำต้นเหนือพื้นดินหลังการตัดต้นเป็นตำแหน่งในการคีบ ชุดโซ่ลำเลียงนี้จะต่อร่วมกับระบบการขุด เพื่อลำเลียงเหง้าพร้อมหัวมันสำปะหลังไปยังอุปกรณ์ขนย้ายที่มีลักษณะเป็นกระบะบรรทุกแบบมีล้อ ต่อพ่วงแบบกึ่งลากจูงกับชุดโครงขุดและลำเลียง เมื่อทำการเก็บเกี่ยวจนเต็มกระบะบรรทุกจะทำการเทรวมกองกันไว้เป็นจุดๆ เพื่อใช้แรงงานคนในการสับแยกเหง้าและลำเลียงขึ้นรถบรรทุกต่อไป จึงสรุปได้ว่ายังไม่สามารถช่วยลดการใช้แรงงานในกระบวนการขนย้ายรวมกอง และสับแยกเหง้าได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ระบบการลำเลียงที่กล่าวมานั้นมีชิ้นส่วนทางกลที่ต้องการการปรับตั้ง การหล่อลื่น การบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่งในการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังจะมีฝุ่นละออง เศษวัสดุจำนวนมากส่งผลต่ออายุการใช้งานของระบบโซ่ลำเลียง รวมถึงความยาวของรถแทรกเตอร์ต้นกำลังรวมกับอุปกรณ์การขุด ระบบลำเลียงเหง้าและอุปกรณ์การขนย้ายเหง้ามันสำปะหลังที่มีการใช้งานแบบต่อพ่วงกึ่งลากจูง เมื่อทำการเก็บเกี่ยวจริงจะต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยวหัวงานมากเป็นพิเศษ ซึ่งไม่สะดวกในการทำการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ที่หน้ากว้างของแปลงปลูกไม่สม่ำเสมอ และระบบการตัดแยกเหง้า ถือเป็นกลไกที่มีความสำคัญประการสุดท้ายของเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังเนื่องจากเครื่องเก็บเกี่ยวที่กล่าวมาข้างต้นยังคงต้องใช้แรงงานคนในการตัดแยกเหง้า หากเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังมีกระบวนการครบถ้วนและสามารถลดการใช้แรงงานคนได้จริง ต้องทำงานได้ครบบริบทในการขุด ลำเลียง และแยกเหง้า ไปในกระบวนการเดียวกัน แต่ในปัจจุบันมีการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการแยกเหง้าเพียงในระดับห้องปฏิบัติการเท่านั้น<ref name=":5" />


=== '''เครื่องลำเลียงมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก'''  ===
เครื่องลำเลียงหัวมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อลดการใช้แรงงานคน เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวนั้นจะต้องใช้แรงงานพิเศษคือต้องเป็นแรงงานที่มีร่างกายแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงทำให้ค่าจ้างแรงงานในส่วนนี้สูงกว่ากระบวนการรวบรวม หรือกระบวนการสับเหง้า ดังนั้นการใช้เครื่องมือดังกล่าว นอกจากจะช่วยในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายหรือการใช้แรงงานแล้วยังทำให้สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานเรื่องการยกสิ่งของหนักได้อีกด้วย<ref>ชัยยันต์ จันทร์ศิริ และเสรี วงส์พิเชษฐ. 2556. การศึกษาและพัฒนาอุปกรณ์ลำเลียงมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก. วารสารวิจัย มข. 18(2): 212-220.</ref>
เครื่องลำเลียงหัวมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อลดการใช้แรงงานคน เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวนั้นจะต้องใช้แรงงานพิเศษคือต้องเป็นแรงงานที่มีร่างกายแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงทำให้ค่าจ้างแรงงานในส่วนนี้สูงกว่ากระบวนการรวบรวม หรือกระบวนการสับเหง้า ดังนั้นการใช้เครื่องมือดังกล่าว นอกจากจะช่วยในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายหรือการใช้แรงงานแล้วยังทำให้สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานเรื่องการยกสิ่งของหนักได้อีกด้วย<ref>ชัยยันต์ จันทร์ศิริ และเสรี วงส์พิเชษฐ. 2556. การศึกษาและพัฒนาอุปกรณ์ลำเลียงมันสำปะหลังขึ้นรถบรรทุก. วารสารวิจัย มข. 18(2): 212-220.</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
ผู้ใช้นิรนาม