223
การแก้ไข
บรรทัดที่ 2: | บรรทัดที่ 2: | ||
ต้นพันธุ์มันสำปะหลังคิดเป็นส่วนของต้นทุนประมาณ 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด การลงทุนปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ขนาดใหญ่หากต้องพึ่งพาต้นพันธุ์จากแหล่งอื่นทุกปีจัดว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาต้นพันธุ์จะผันแปรตลอดเวลาในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการของเกษตรกรและสภาพอากาศในปีนั้นๆ อีกทั้งไม่สามารถควบคุมคุณภาพต้นพันธุ์ที่จัดซื้อมาได้ ส่งผลต่อผลผลิตมันสำปะหลังในที่สุด แต่เนื่องจากมันสำปะหลังสามารถขยายพันธุ์โดยใช้ท่อนพันธุ์ปลูก ดังนั้นจึงสามารถปลูกขยายต้นพันธุ์ไว้ใช้เองในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ผลผลิตแต่ละพื้นที่จึงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และคุณลักษณะของดินที่ปลูกเป็นสำคัญ อีกทั้งการระบาดของเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง ทำให้ต้องมีการจัดทำแปลงขยายท่อนพันธุ์สะอาด เพื่อกระจายพันธุ์ดีในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับการให้ผลผลิตมันสำปะหลังให้เพียงพอต่อความต้องการ จำหน่าย หรือแจกจ่ายเกษตรกรลูกไร่ และลดการระบาดของเพลี้ยแป้ง มีหลักในการพิจารณาและปฏิบัติ ดังนี้ | ต้นพันธุ์มันสำปะหลังคิดเป็นส่วนของต้นทุนประมาณ 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด การลงทุนปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ขนาดใหญ่หากต้องพึ่งพาต้นพันธุ์จากแหล่งอื่นทุกปีจัดว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาต้นพันธุ์จะผันแปรตลอดเวลาในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการของเกษตรกรและสภาพอากาศในปีนั้นๆ อีกทั้งไม่สามารถควบคุมคุณภาพต้นพันธุ์ที่จัดซื้อมาได้ ส่งผลต่อผลผลิตมันสำปะหลังในที่สุด แต่เนื่องจากมันสำปะหลังสามารถขยายพันธุ์โดยใช้ท่อนพันธุ์ปลูก ดังนั้นจึงสามารถปลูกขยายต้นพันธุ์ไว้ใช้เองในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ผลผลิตแต่ละพื้นที่จึงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และคุณลักษณะของดินที่ปลูกเป็นสำคัญ อีกทั้งการระบาดของเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง ทำให้ต้องมีการจัดทำแปลงขยายท่อนพันธุ์สะอาด เพื่อกระจายพันธุ์ดีในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับการให้ผลผลิตมันสำปะหลังให้เพียงพอต่อความต้องการ จำหน่าย หรือแจกจ่ายเกษตรกรลูกไร่ และลดการระบาดของเพลี้ยแป้ง มีหลักในการพิจารณาและปฏิบัติ ดังนี้ | ||
== '''สภาพพื้นที่และดิน''' == | == '''สภาพพื้นที่และดิน''' <ref name=":0">มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2556) เทคโนโลยี 52 สัปดาห์ มันสำปะหลัง. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์:กรุงเทพฯ.</ref> == | ||
สภาพพื้นที่เหมาะสมในการปลูกมันสำปะหลังควรเป็นพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ดีไม่เป็นที่ลุ่ม หรือมีน้ำท่วมขัง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 2,000 เมตร พื้นที่ราบสม่ำเสมอ มีความลาดเอียงไม่เกิน 5 เปอร์เซนต์ ลักษณะดินเป็นดินร่วน ดินร่วนปนทราย หรือดินทราย ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง อินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่า 1.0 มันสำปะหลังปรับตัวได้ดีในสภาพดินเลว ทนทานต่อดินที่มี pH ต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ อย่างไรก็ตามดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกมันสำปะหลัง คือ ดินที่มีเนื้อค่อนข้างหยาบ ตั้งแต่ดินร่วนปนทรายถึงดินร่วนเหนียวปนทราย เพราะมีเปอร์เซ็นต์การระบายน้ำและการถ่ายเทอากาศดี ระดับหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร ความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 5.5 – 7.5 ปริมาณน้ำฝนกระจายสม่ำเสมอ 1,000 – 1,500 มิลลิเมตรต่อปีมีแสงแดดจัด | สภาพพื้นที่เหมาะสมในการปลูกมันสำปะหลังควรเป็นพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ดีไม่เป็นที่ลุ่ม หรือมีน้ำท่วมขัง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 2,000 เมตร พื้นที่ราบสม่ำเสมอ มีความลาดเอียงไม่เกิน 5 เปอร์เซนต์ ลักษณะดินเป็นดินร่วน ดินร่วนปนทราย หรือดินทราย ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง อินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่า 1.0 มันสำปะหลังปรับตัวได้ดีในสภาพดินเลว ทนทานต่อดินที่มี pH ต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ อย่างไรก็ตามดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกมันสำปะหลัง คือ ดินที่มีเนื้อค่อนข้างหยาบ ตั้งแต่ดินร่วนปนทรายถึงดินร่วนเหนียวปนทราย เพราะมีเปอร์เซ็นต์การระบายน้ำและการถ่ายเทอากาศดี ระดับหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร ความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 5.5 – 7.5 ปริมาณน้ำฝนกระจายสม่ำเสมอ 1,000 – 1,500 มิลลิเมตรต่อปีมีแสงแดดจัด | ||
== '''อุณหภูมิ''' == | == '''อุณหภูมิ''' <ref name=":0" /> == | ||
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตคือ 25 – 37 องศาเซลเซียส ซึ่งมีผลกระทบต่อการงอกของท่อนพันธุ์ปลูก ขนาดใบ การสร้างใบ การสร้างหัวสะสมอาหาร และการเจริญเติบโตทั่วไปในสภาพที่อุณหภูมิต่ำที่ 16 องศาเซลเซียส มีผลต่อการแตกใบและการงอกรากจากท่อนปลูก อัตราการสร้างใบ การสร้างน้ำหนักแห้งทั้งต้น และการสะสมน้ำหนักแห้งของหัวลดลง การแตกใบและการงอกรากจากท่อนปลูกได้ดีเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นจนถึง 30 องศาเซลเซียส และถูกยับยั้งเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 37 องศาเซลเซียส | อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตคือ 25 – 37 องศาเซลเซียส ซึ่งมีผลกระทบต่อการงอกของท่อนพันธุ์ปลูก ขนาดใบ การสร้างใบ การสร้างหัวสะสมอาหาร และการเจริญเติบโตทั่วไปในสภาพที่อุณหภูมิต่ำที่ 16 องศาเซลเซียส มีผลต่อการแตกใบและการงอกรากจากท่อนปลูก อัตราการสร้างใบ การสร้างน้ำหนักแห้งทั้งต้น และการสะสมน้ำหนักแห้งของหัวลดลง การแตกใบและการงอกรากจากท่อนปลูกได้ดีเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นจนถึง 30 องศาเซลเซียส และถูกยับยั้งเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 37 องศาเซลเซียส | ||
== '''การเตรียมดิน''' == | == '''การเตรียมดิน''' <ref name=":0" /> == | ||
แปลงขยายพันธุ์ควรเป็นแปลงที่มีระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลางถึงสูง มีการระบายน้ำดี ไม่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน ควรหลีกเลี่ยงปลูกในดินที่ชื้นแฉะ เพราะหัวมันสำปะหลังจะเน่าเสียได้ง่ายและมีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิคสูง การเตรียมดินควรไถ 2 ครั้ง โดยผาน 3 และผาน 7 ควรไถให้ลึกประมาณ 8 – 12 นิ้ว โดยไถกลบเศษเหลือของพืช เช่น ลําต้น เหง้า ใบ และยอดของมันสําปะหลังที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว ไม่ควรเผาหรือเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพราะการเผาทิ้งหรือขนย้ายไปทิ้งจะทําให้ธาตุอาหารสญหายไปเป็นจํานวนมาก สำหรับพื้นที่ปลูกที่ลาดเอียง เพื่อลดการสูญเสียหน้าดิน และพื้นที่ปลูกที่มีน้ำท่วมขัง ควรทำร่องระบายน้ำและยกร่องปลูก การเตรียมดินสำหรับปลูกมันสำปะหลังทำได้ ดังนี้ | แปลงขยายพันธุ์ควรเป็นแปลงที่มีระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลางถึงสูง มีการระบายน้ำดี ไม่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน ควรหลีกเลี่ยงปลูกในดินที่ชื้นแฉะ เพราะหัวมันสำปะหลังจะเน่าเสียได้ง่ายและมีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิคสูง การเตรียมดินควรไถ 2 ครั้ง โดยผาน 3 และผาน 7 ควรไถให้ลึกประมาณ 8 – 12 นิ้ว โดยไถกลบเศษเหลือของพืช เช่น ลําต้น เหง้า ใบ และยอดของมันสําปะหลังที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว ไม่ควรเผาหรือเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพราะการเผาทิ้งหรือขนย้ายไปทิ้งจะทําให้ธาตุอาหารสญหายไปเป็นจํานวนมาก สำหรับพื้นที่ปลูกที่ลาดเอียง เพื่อลดการสูญเสียหน้าดิน และพื้นที่ปลูกที่มีน้ำท่วมขัง ควรทำร่องระบายน้ำและยกร่องปลูก การเตรียมดินสำหรับปลูกมันสำปะหลังทำได้ ดังนี้ | ||
บรรทัดที่ 19: | บรรทัดที่ 19: | ||
หากดินที่ทำการเพาะปลูกมันติดต่อกันหลายปี ควรปรับปรุงดิน เพื่อรักษาระดับผลผลิตในระยะยาว ด้วยการใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักเปลือกมันชนิดเก่าค้างปี (จากโรงแป้งทั่วไป) ที่หาได้ในท้องถิ่น หรือ ปลูกพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ หมุนเวียนบำรุงดิน ในกรณีที่พื้นที่ประเภทหญ้าคา ควรใช้ยาราวด์อัพหากเป็นเครือเถาต่าง ๆ ควรใช้ยาสตาร์เรน ฉีดพ่นยาจำกัดเสียก่อนการไถ จากนั้นไถครั้งแรกโดยไถกลบวัชพืชก่อนปลูกด้วยผาน 3 (ห้ามเผาทำลายวัชพืช) ให้ลึกประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร แล้วทิ้งระยะไว้ประมาณ 20 – 30 วัน เพื่อหมักวัชพืชเป็นปุ๋ยในดินต่อไป ไถพรวนด้วยผาน 7 อีก 1 - 2 ครั้ง ตามความเหมาะสม และรีบปลูกโดยเร็ว ในขณะที่ดินยังมีความชื้นอยู่ | หากดินที่ทำการเพาะปลูกมันติดต่อกันหลายปี ควรปรับปรุงดิน เพื่อรักษาระดับผลผลิตในระยะยาว ด้วยการใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักเปลือกมันชนิดเก่าค้างปี (จากโรงแป้งทั่วไป) ที่หาได้ในท้องถิ่น หรือ ปลูกพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ หมุนเวียนบำรุงดิน ในกรณีที่พื้นที่ประเภทหญ้าคา ควรใช้ยาราวด์อัพหากเป็นเครือเถาต่าง ๆ ควรใช้ยาสตาร์เรน ฉีดพ่นยาจำกัดเสียก่อนการไถ จากนั้นไถครั้งแรกโดยไถกลบวัชพืชก่อนปลูกด้วยผาน 3 (ห้ามเผาทำลายวัชพืช) ให้ลึกประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร แล้วทิ้งระยะไว้ประมาณ 20 – 30 วัน เพื่อหมักวัชพืชเป็นปุ๋ยในดินต่อไป ไถพรวนด้วยผาน 7 อีก 1 - 2 ครั้ง ตามความเหมาะสม และรีบปลูกโดยเร็ว ในขณะที่ดินยังมีความชื้นอยู่ | ||
== '''การทำแปลงขยายพันธุ์แบบปกติ''' == | == '''การทำแปลงขยายพันธุ์แบบปกติ''' <ref name=":0" /> == | ||
=== '''การปลูกด้วยท่อนพันธุ์''' === | === '''การปลูกด้วยท่อนพันธุ์''' === | ||
บรรทัดที่ 27: | บรรทัดที่ 27: | ||
* '''การปลูกแบบปัก''' การปลูกแบบปักจะให้ผลดีกว่าการปลูกแนวนอน เนื่องจากมันสำปะหลังงอกได้เร็วกว่า สม่ำเสมอกว่า สะดวกต่อการปลูกซ่อม และกำจัดวัชพืช ในฤดูฝน ถ้าพื้นที่แฉะควรยกร่องและปลูกบนสันร่อง ถ้าดินระบายน้ำดีปลูกบนพื้นที่ราบก็ได้ การปักท่อนพันธุ์ตั้งตรงหรือเอียงให้ลึกประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร สำหรับการปลูกในฤดูแล้งไม่จำเป็นต้องยกร่องแต่ควรปักตั้งตรงหรือเอียง ให้ลึกกว่าการปลูกในฤดูฝน 10 – 15 เซนติเมตร จะช่วยให้ท่อนพันธุ์มีความงอกและมีความอยู่รอดสูง ส่วนการปลูกในพื้นที่ที่มีความเอียง ควรปลูกโดยการยกร่องขวางแนวลาดเอียง | * '''การปลูกแบบปัก''' การปลูกแบบปักจะให้ผลดีกว่าการปลูกแนวนอน เนื่องจากมันสำปะหลังงอกได้เร็วกว่า สม่ำเสมอกว่า สะดวกต่อการปลูกซ่อม และกำจัดวัชพืช ในฤดูฝน ถ้าพื้นที่แฉะควรยกร่องและปลูกบนสันร่อง ถ้าดินระบายน้ำดีปลูกบนพื้นที่ราบก็ได้ การปักท่อนพันธุ์ตั้งตรงหรือเอียงให้ลึกประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร สำหรับการปลูกในฤดูแล้งไม่จำเป็นต้องยกร่องแต่ควรปักตั้งตรงหรือเอียง ให้ลึกกว่าการปลูกในฤดูฝน 10 – 15 เซนติเมตร จะช่วยให้ท่อนพันธุ์มีความงอกและมีความอยู่รอดสูง ส่วนการปลูกในพื้นที่ที่มีความเอียง ควรปลูกโดยการยกร่องขวางแนวลาดเอียง | ||
== '''การทำแปลงขยายต้นพันธุ์แบบเร่งรัด''' == | == '''การทำแปลงขยายต้นพันธุ์แบบเร่งรัด''' <ref name=":0" /> == | ||
วิธีการขยายพันธุ์แบบเร่งรัด เป็นการตัดท่อนพันธุ์สั้นกว่าปกติหรือตัดต้นอ่อนไปปลูกโดยไม่ต้องรอให้มันสำปะหลังอายุครบ 8 – 12 เดือนตามวิธีการปกติ เพื่อให้ได้ปริมาณท่อนพันธุ์จำนวนมากภายในเวลาอันสั้น สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี ดังนี้ | วิธีการขยายพันธุ์แบบเร่งรัด เป็นการตัดท่อนพันธุ์สั้นกว่าปกติหรือตัดต้นอ่อนไปปลูกโดยไม่ต้องรอให้มันสำปะหลังอายุครบ 8 – 12 เดือนตามวิธีการปกติ เพื่อให้ได้ปริมาณท่อนพันธุ์จำนวนมากภายในเวลาอันสั้น สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี ดังนี้ | ||
บรรทัดที่ 60: | บรรทัดที่ 60: | ||
# การเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ ต้นพันธุ์ที่ได้จากการปลูกทั้งสองวิธีการสามารถเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์พร้อมกันได้ คือ แปลงที่ปลูกโดยใช้ต้นพันธุ์อ่อนเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ที่อายุ 10 เดือนหลังปลูก และแปลงที่ไว้ตอสามารถเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ที่อายุ 10 เดือนหลังการตัดต้นไว้ตอ ซึ่งต้นพันธุ์ที่ได้จากทั้งสองแปลงจะมีคุณภาพต้นพันธุ์ใกล้เคียงกัน | # การเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ ต้นพันธุ์ที่ได้จากการปลูกทั้งสองวิธีการสามารถเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์พร้อมกันได้ คือ แปลงที่ปลูกโดยใช้ต้นพันธุ์อ่อนเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ที่อายุ 10 เดือนหลังปลูก และแปลงที่ไว้ตอสามารถเก็บเกี่ยวต้นพันธุ์ที่อายุ 10 เดือนหลังการตัดต้นไว้ตอ ซึ่งต้นพันธุ์ที่ได้จากทั้งสองแปลงจะมีคุณภาพต้นพันธุ์ใกล้เคียงกัน | ||
== '''เทคนิคการตัดต้นไว้ตอมันสำปะหลัง''' == | == '''เทคนิคการตัดต้นไว้ตอมันสำปะหลัง''' <ref name=":0" /> == | ||
การไว้ตอมันสำปะหลังเป็นวิธีการตัดต้นพันธุ์ออกไปปลูกก่อน โดยยังไม่ขุดเก็บเกี่ยวผลผลิตหัวสดออกจากแปลง หลังตัดต้นพันธุ์ออกไปแล้วมันสำปะหลังจะแตกตาใหม่ขึ้นมาและสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นปกติ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างอาหารและนำไปสะสมที่รากทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นได้อีกในภายหลัง การไว้ตอมันสำปะหลังมีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้ | การไว้ตอมันสำปะหลังเป็นวิธีการตัดต้นพันธุ์ออกไปปลูกก่อน โดยยังไม่ขุดเก็บเกี่ยวผลผลิตหัวสดออกจากแปลง หลังตัดต้นพันธุ์ออกไปแล้วมันสำปะหลังจะแตกตาใหม่ขึ้นมาและสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นปกติ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างอาหารและนำไปสะสมที่รากทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นได้อีกในภายหลัง การไว้ตอมันสำปะหลังมีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้ | ||
การแก้ไข