การวิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:53, 2 กรกฎาคม 2564 โดย Thanapon(คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าด้วย "=== '''ข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาศักยภาพพื้นที่ปลูก''' === ม...")
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาศักยภาพพื้นที่ปลูก

มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายและสามารถปลูกได้เกือบทุกภาคของประเทศ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการผลิตมันสำปะหลังในพื้นที่ที่ไม่เคยปลูกมันสำปะหลังมาก่อน คือ ความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะใช้ในการปลูก ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ สภาพพื้นที่ปลูก และแหล่งรับซื้อผลผลิต พื้นที่ปลูกจะส่งผลต่อวิธีการจัดการในแปลงปลูกและผลผลิตของมันสำปะหลัง หากพื้นที่ปลูกและการจัดการไม่เหมาะสมจะทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มศักยภาพ อาจถึงขั้นได้ผลผลิตที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนและส่งผลให้ผู้ปลูกประสบภาวะขาดทุน

เกณฑ์ที่เหมาะสมในการปลูกมันสำปะหลัง

  1. สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม มันสำปะหลังเจริญเติบโตได้ดีในภูมิอากาศแบบร้อนชื้นที่มีอุณหภูมิอากาศ 25-35 องศาเซลเซียส แต่ที่เหมาะสมคืออุณหภูมิอากาศ 25-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิดินประมาณ 30 องศาเซลเซียส (FAO, 2019) ถ้าอุณภูมิอากาศเฉลี่ยต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส จะมีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิต (Onwueme, 1978; Cock, 1985) อุณหภูมิอากาศต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส หรือมีหิมะและน้ำค้างแข็ง จะทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงักและไม่แนะนำให้ปลูกมันสำปะหลัง (Cock, 1985; FAO, 2019) นอกจากนี้อุณหภูมิที่สูงเกินไปก็ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช จากการคาดการณ์การเกิดสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้ผลผลิตของมันสำปะหลังลดลงถึง 43 เปอร์เซ็นต์ในอนาคต (Boonpradub et al., 2009) พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังควรมีการกระจายของปริมาณน้ำฝน 1,000-3,000 มิลลิเมตรต่อปี สามารถทนแล้งได้นาน 3-4 เดือนหากเกิดฝนทิ้งช่วงหรือมีปริมาณน้ำฝนต่ำเนื่องจากมันสำปะหลังมีระบบรากลึกซึ่งสามารถดูดซับน้ำใต้ดินมาใช้ได้ รวมทั้งมีกลไกในการทนต่อสภาพแห้งแล้งเป็นเวลานาน เช่น ทิ้งใบและชะลอการเจริญเติบโต (Onwueme, 1978; CIAT, 1980; Onwueme and Sinha, 1991; FAO, 2019) มันสำปะหลังจึงเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ที่มีการกระจายของปริมาณน้ำฝนไม่สม่ำเสมอตลอดปี ถึงแม้ว่ามันสำปะหลังจะเป็นพืชทนแล้งแต่บริเวณที่มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่า 500-600 มิลลิเมตรต่อปี เช่น เขตทะเลทราย ไม่เหมาะสมต่อการปลูกมันสำปะหลัง (CIAT, 1980; Cock, 1985) นอกจากนี้มันสำปะหลังไม่ทนต่อสภาพน้ำขัง (Onwueme and Sinha, 1991) ดังนั้นในสภาพพื้นที่ที่มีฝนตกชุกสลับกับฤดูแล้งสั้น ๆ เช่น พื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทยที่มีฝนตกเป็นระยะเวลานานถึง 8 เดือน จึงไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกมันสำปะหลัง เพราะอาจทำให้หัวเน่าเสียหายและต้นตายได้ (Boonpradub et al., 2009)
  2. สภาพพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม มันสำปะหลังสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีในเขตร้อนและกึ่งร้อน ตั้งแต่บริเวณเส้นรุ้งที่ 30 องศาเหนือถึง 30 องศาใต้ แต่มีการปลูกแพร่หลายระหว่าง 15 องศาเหนือ ถึง 15 องศาใต้ เนื่องจากให้ผลผลิตดี (Onwueme, 1978; Cock, 1985) สำหรับประเทศไทยอยู่ในระหว่างเส้นรุ้งที่ 6-20 องศาเหนือ จึงสามารถปลูกมันสำปะหลังได้ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ซึ่งมีฝนตกชุก มันสำปะหลังสามารถเจริญเติบโตได้ในภูมิประเทศที่เป็นที่ราบจนถึงพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,800-2,000 เมตร เช่นเทือกเขาแอนดีส (Onwueme, 1978; FAO, 2019) สำหรับสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมคือที่ดอนหรือบริเวณที่ราบขั้นบันไดระดับกลาง (Middle terrace) ลักษณะดินเป็นดินร่วนถึงร่วนปนทราย มีการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศดี มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ซึ่งจะทำให้มันสำปะหลังลงหัวได้ดีและเก็บเกี่ยวได้ง่าย เช่น พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย (กรมพัฒนาที่ดิน, 2546) นอกจากนี้แปลงปลูก มันสำปะหลังควรเป็นดินที่ไม่มีกรวดหรือดินเค็ม (Onwueme and Sinha, 1991) มีค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) 4.0-8.0 (USDA, 2005) โดยค่า pH ที่เหมาะสมคือ 4.5 ถึง 6.5 (Onwueme and Sinha, 1991) ซึ่งมันสำปะหลังสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพดินที่มีความเป็นกรดสูง (ค่า pH ต่ำถึง 4.5) โดยไม่มีผลกระทบต่อผลผลิต แต่ไม่ทนต่อสภาพดินที่เป็นด่างสูง หากค่า pH สูงกว่า 8 จะทำให้การเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง (USDA, 2005; มูลนิธิพัฒนามันสําปะหลังแห่งประเทศไทย, 2546)