โรคลำต้นไหม้ (stem blight disease)
เชื้อสาเหตุเกิดจากเชื้อรา Phoma eupyrena มีการเริ่มระบาดในปี 2557 ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ ระยอง สระแก้ว สระบุรี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ส่งผลให้เกษตรกรเกิดการขาดแคลนท่อนพันธุ์ เนื่องจากโรคดังกล่าวมีการแพร่ระบาดไปกับท่อนพันธุ์ได้ ทำให้มันสำปะหลังแห้งตายตั้งแต่ระยะ 1 – 2 เดือน
ลักษณะอาการ
เชื้อรามีการเข้าทำลายตรงรอยตัดส่วนบนของท่อนพันธุ์ ทำให้ยอดด้านบนแห้งตาย และเชื้อลามลงมาสู่โคนต้น บริเวณเปลือกลำต้นจะมีรอยปริแตก เป็นกลุ่มสปอร์เป็นเม็ดกลมสีดำปรากฏอยู่จำนวนมาก เมื่อยอดถูกทำลายจะทำให้มันสำปะหลังแตกตาข้างมากกว่าปกติ หากอาการรุนแรงต้นกล้าจะแสดงอาการใบเหลือง แห้ง ร่วง และยืนต้นตายในที่สุด
การแพร่ระบาด
โรคนี้มีการแพร่ระบาดไปกับท่อนพันธุ์
การป้องกันกำจัด
ใช้ท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์และปลอดโรค หลีกเลี่ยงท่อนพันธุ์ที่อ่อนเกินไป ก่อนปลูกควรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรานาน 15 – 20 นาที โดยเลือกใช้สารเคมีดังนี้
ตารางที่1 สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา Phoma eupyrena
ชื่อสามัญ | อัตราต่อน้ำ20 ลิตร |
โปรคลอราซ (prochloraz 45% EC) | 10 ซีซี |
แมนเซ็ป (mancozeb 80% WP) | 60 กรัม |
ไพราโคสโตรบิน (pyraclostrobim 25% EC) | 20 ซีซี |
เมทาแลคซิล+แมนโคเซ็ป (metalaxyl+mancozeb 4%+64% WP) | 80 กรัม |
ฟลูโอไพแรม+ทีบูโคลนาโซน
(fluopyram+tebuconazole 20%+20% W/V SC) |
10 ซีซี |
หากไม่ทำการแช่ท่อนพันธุ์ และพบว่ามีการแพร่ระบาดรุนแรงในระยะ 1-2 เดือนหลังปลูก ควรพ่นสารกำจัดโรคดังตารางที่ 1 ให้ทั่วทั้งต้น (สำนักงานวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช, 2559)