สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:24, 12 กรกฎาคม 2564 โดย กนกพร ฉัตรไชยศิริ(คุย | ส่วนร่วม)
ในการปลูกมันสำปะหลังในช่วงระยะเวลา 1 ปี มีศัตรูพืชเข้าขัดขวางการเจริญของมันสำปะหลังหลากหลายชนิด ดังเช่นเชื้อโรค แมลง และวัชพืช เมื่อเข้าทำลายส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตลดลงหรือพืชเกิดอาการผิดปกติ ดังนั้นในการควบคุมโรค แมลง และวัชพืช ดังกล่าวจึงมีด้วยกันหลายวิธีทั้งการใช้สารเคมีในการควบคุมหรือการควบคุมทางชีวภาพ โดยมีการจำแนกดังนี้
การจำแนกสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช
- การจำแนกตามชนิดของศัตรูพืชที่ต้องการควบคุม
- สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง (Insecticides) เป็นสารเคมีที่ใช้ควบคุมแมลง หรือสัตว์ที่ใกล้เคียงกับแมลง เห็บ (ticks) และแมงมุม (spiders)
- สารเคมีป้องกันและกำจัดไร (Acaricide หรือ Miticide) เป็นสารเคมีที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช
- สารเคมีป้องกันและกำจัดไส้เดือนฝอย (Insecticides) เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าไส้เดือนฝอย
- สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา (Fungicides) เป็นสารเคมีที่ใช้ควบคุม หรือยับยั้งการทพลายของเชื้อรา
- สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย (Bactericides) เป็นสารเคมีที่ใช้ควบคุม หรือยับยั้งการทำลายของเชื้อแบคทีเรีย
- สารเคมีป้องกันและกำจัดวัชพืช (Herbicides) เป็นสารเคมีที่ใช้ควบคุม หรือทำลายของวัชพืชหรือพืชที่เราไม่ต้องการ
- การจำแนกตามคุณสมบัติทางเคมี
- สารอนินทรีย์ (Inorganic Pesticides) เป็นสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากแร่ธาตุต่างๆ เช่นสารหนู (arsenic) ทองแดง (copper) ตะกั่ว (lead) ดีบุก (tin) สังกะสี (zinc) เป็นต้น สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ในกลุ่มนี้ได้แก่ สารหนูตะกั่ว (Lead arsenate) สารหนูเขียว (Paris green) บอร์โด มิกซ์เจอร์ (Bordeaux mixture) เป็นต้น
- สารอินทรีย์สังเคราะห์ (Sythetic Organic Pesticides) เป็นสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากมนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ซึ่งมีธาตุคาร์บอน และไฮโดรเจน เป็นองค์ประกอบหลัก และอาจมีธาตุอื่นๆอยู่ด้วยเช่น คลอรีน ฟอสฟอรัส ออกซิเจน หรือไนโตรเจน เป็นต้น สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ในกลุ่มนี้ได้แก่ มาลาไธออน แคปแทน เป็นต้น
- สารอินทรีย์จากพืช (Derived Organic Pesticides) เป็นสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากมนุษย์สกัดมาจากส่วนต่างๆของพืช สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ในกลุ่มนี้ได้แก่ นิโคตินจากยาสูบ ไพรีธรัมจากพืชตระกูลเบญจมาศ เป็นต้น
- เชื้อจุลินทรีย์ (Microbial Pesticides) เป็นสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากจุลินทรีย์ต่างๆ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ในกลุ่มนี้ได้แก่ เชื้อไวรัส Nuclear Polyhedriosis Virus (NPV) เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เชื้อราบิวเวอเรีย เป็นต้น
การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
ในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในแปลงปลูกสิ่งที่ต้องคำนึงในระดับต้นคือความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในแปลง โดยสารเคมีที่ใช้ส่งผลต่อมนุษย์ได้หลายระดับ อาจส่งผลต่อสุขภาพในอนาคตได้ ดังนั้นควรมีข้อปฏิบัติดังนี้
- อ่านฉลากกำกับโดยตลอดให้เข้าใจก่อนใช้และต้องปฏิบัติตามคำเตือนและข้อควรระวังโดยเคร่งครัด
- การผสมสารกำจัดศัตรูพืช อย่าใช้มือผสมให้ใช้ ไม้กวน หรือคลุกให้เข้ากัน
- อย่าใช้ปากเปิดขวดสารกำจัดศัตรูพืชหรือเป่าดูดสิ่งอุดตันที่หัวฉีดควรเปลี่ยนหัวฉีดใหม่หรือใช้ลวดเขี่ย
- การฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช ควรแต่งตัวให้มิดชิดเพื่อป้องกันมิให้ถูกละอองสาร
- ขณะฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช ควรอยู่เหนือลมเสมอและ หยุดฉีด เมื่อลมแรง
- อย่าสูบบุหรี่หรือรับประทานอาหารขณะใช้สารกำจัดศัตรูพืช
- อย่าล้างภาชนะบรรจุหรืออุปกรณ์เครื่องพ่นลงไปในทางน้ำ บ่อ คลอง ฯลฯ
- เมื่อเสร็จการใช้สารกำจัดศัตรูพืชแล้ว ให้ถอดเสื้อผ้าที่ใส่ออกซักแล้วอาบน้ำให้สะอาด
- หยุดฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชตามกำหนดก่อนเก็บเกี่ยวพืชตามที่ระบุในฉลาก
- ถ้ารู้สึกไม่สบายให้หยุดฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช และรีบไปพบแพทย์พร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก
- เก็บสารกำจัดศัตรูพืชไว้ในภาชนะเติมเท่านั้น อย่าถ่ายภาชนะโดยเด็ดขาด
- เก็บสารกำจัดศัตรูพืชไว้ในที่ปลอดภัย ห่างจากเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร และเปลวไฟ
- ภาชนะบรรจุสารกำจัดศัตรูพืชเมื่อใช้หมดแล้วให้ทำลาย (พฤทธิชาติ, ม.ป.พ.)
การใช้สารเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้ในอัตราส่วน ช่วงเวลาการใช้ และจำนวนครั้งตามคำแนะนำหน้าฉลาก
- ใช้สารเคมีให้ตรงกับชนิดของศัตรูพืช ถูกประเภท และถูกวิธี