134
การแก้ไข
บรรทัดที่ 12: | บรรทัดที่ 12: | ||
โรคใบด่างมันสำปะหลังที่เกิดจากเชื้อไวรัสวงศ์ (Family) Geminiviridae สกุล (Genus) Begomovirus ซึ่งเป็นไวรัสที่มีอนุภาคเป็นทรงกลมคู่ (Geminate particle) มีขนาดเฉลี่ยโดยประมาณ 18x30 นาโนเมตร ลักษณะจีโนมมีจำนวน 2 โมเลกุล (Bipartite genomes) ประกอบด้วย DNA-A และ DNA-B โดยแต่ละจีโนมมีลำดับนิวคลีโอไทด์ขนาดประมาณ 2,700 เบส เป็นสายพันธุกรรมเป็นแบบดีเอ็นเอสายเดี่ยววงปิด (single stranded DNA, ssDNA) ไวรัสในวงศ์ Geminiviridae เป็นไวรัสสาเหตุโรคพืชที่สร้างความเสียหายแก่พืชทางเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง มันสำปะหลัง มะเขือเทศ และฝ้ายเป็นต้น (Yadava ''et al''., 2010) นอกจากนี้ไวรัสใบด่างมันสำปะหลังยังมีพืชอาศัยที่สามารถเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมได้ เช่น พืชในวงศ์ Euphorbiacease (สบู่ดำ และละหุ่ง) และวงศ์ Solanaceae (ยาสูบ) (<ref>Alabi, O.J., F.O. Ogbe, R. Bandyopadhyay, P.L. Kumar, A.G. Dixon, J.D. Hughes and R.A. Naidu. 2008. Alternate hosts of African cassava mosaic virus and East African cassava mosaic Cameroon virus in Nigeria. Arch Virol. 153: 1743–1747.</ref>) | โรคใบด่างมันสำปะหลังที่เกิดจากเชื้อไวรัสวงศ์ (Family) Geminiviridae สกุล (Genus) Begomovirus ซึ่งเป็นไวรัสที่มีอนุภาคเป็นทรงกลมคู่ (Geminate particle) มีขนาดเฉลี่ยโดยประมาณ 18x30 นาโนเมตร ลักษณะจีโนมมีจำนวน 2 โมเลกุล (Bipartite genomes) ประกอบด้วย DNA-A และ DNA-B โดยแต่ละจีโนมมีลำดับนิวคลีโอไทด์ขนาดประมาณ 2,700 เบส เป็นสายพันธุกรรมเป็นแบบดีเอ็นเอสายเดี่ยววงปิด (single stranded DNA, ssDNA) ไวรัสในวงศ์ Geminiviridae เป็นไวรัสสาเหตุโรคพืชที่สร้างความเสียหายแก่พืชทางเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง มันสำปะหลัง มะเขือเทศ และฝ้ายเป็นต้น (Yadava ''et al''., 2010) นอกจากนี้ไวรัสใบด่างมันสำปะหลังยังมีพืชอาศัยที่สามารถเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมได้ เช่น พืชในวงศ์ Euphorbiacease (สบู่ดำ และละหุ่ง) และวงศ์ Solanaceae (ยาสูบ) (<ref>Alabi, O.J., F.O. Ogbe, R. Bandyopadhyay, P.L. Kumar, A.G. Dixon, J.D. Hughes and R.A. Naidu. 2008. Alternate hosts of African cassava mosaic virus and East African cassava mosaic Cameroon virus in Nigeria. Arch Virol. 153: 1743–1747.</ref>) | ||
[[ไฟล์:Image1.png|thumb|ลักษณะของเชื้อไวรัสเป็นอนุภาคทรงกลมคู่ (Geminate particle) (Zhang ''et al.,'' 2001<ref>Zhang, W., N.H. Olson, T.S. Baker, L. Faulkner, M. Agbandje-McKenna, M.I. Boulton, J.W. Davies, R. McKenna. 2001. Structure of the Maize streak virus geminate particle. Sciencedirect. 279(2): 471-477.</ref>)|center]] | [[ไฟล์:Image1.png|thumb|ลักษณะของเชื้อไวรัสเป็นอนุภาคทรงกลมคู่ (Geminate particle) (Zhang ''et al.,'' 2001<ref>Zhang, W., N.H. Olson, T.S. Baker, L. Faulkner, M. Agbandje-McKenna, M.I. Boulton, J.W. Davies, R. McKenna. 2001. Structure of the Maize streak virus geminate particle. Sciencedirect. 279(2): 471-477.</ref>)|center|574x574px]] | ||
== '''ลักษณะอาการ''' == | == '''ลักษณะอาการ''' == | ||
ต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคจะแสดงอาการ ใบด่างเหลืองและบิดงอเสียรูปทรง อาการด่างมีหลายแบบ เช่น ด่างเขียวซีดสลับเขียวเข้ม ด่างเหลือสลับเขียว ใบหงิก หรือ หงิกเหลือง ใบย่อยบิดเบี้ยวหงิกงอ โค้งเสียรูปทรง ใบอ่อนและใบที่เจริญใหม่มีขนาดเล็กลง ยอดหงิก ต้นแคระแกร็น เจริญเติบโตได้ช้า หัวมีขนาดเล็กกว่าปกติ โดยมีลักษณะที่สังเกตได้ง่ายที่สุดอยู่ที่ใบ โดยใบของต้นมันสำปะหลังจะหงิกงอ พื้นใบไม่เรียบ สีออกด่างเขียวสลับกับเหลือง ลักษณะความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับอายุของต้นมันสำปะหลังขณะที่เชื้อเข้าทำลาย หากต้นมันสำปะหลังมีอายุน้อย จะพบอาการรุนแรงและชัดเจน หากต้นมันสำปะหลังได้รับเชื้อไว้รัสเมื่ออายุมาก อาการของโรคจะไม่รุนแรง ผลผลิตหัวสดอาจไม่ลดลงมาก นอกจากนี้ระดับความรุนแรงของโรคยังขึ้นอยู่กับพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกอีกด้วย (<ref>ปิยะ กิตติภาดากุล, อัญชนา ท่านเจริญ, วันวิสา ศิริวรรณ์ และ สมบุญ ภาณุวัฒน์สุข. 2562. ไทยอาจต้องเลิกปลูกมันสำปะหลังหากไม่สามารถหยุดโรคใบด่างมันสำปะหลังได้ (ตอนที่ 1). เคหการเกษตร. 43(7): 171-174.</ref>) | ต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคจะแสดงอาการ ใบด่างเหลืองและบิดงอเสียรูปทรง อาการด่างมีหลายแบบ เช่น ด่างเขียวซีดสลับเขียวเข้ม ด่างเหลือสลับเขียว ใบหงิก หรือ หงิกเหลือง ใบย่อยบิดเบี้ยวหงิกงอ โค้งเสียรูปทรง ใบอ่อนและใบที่เจริญใหม่มีขนาดเล็กลง ยอดหงิก ต้นแคระแกร็น เจริญเติบโตได้ช้า หัวมีขนาดเล็กกว่าปกติ โดยมีลักษณะที่สังเกตได้ง่ายที่สุดอยู่ที่ใบ โดยใบของต้นมันสำปะหลังจะหงิกงอ พื้นใบไม่เรียบ สีออกด่างเขียวสลับกับเหลือง ลักษณะความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับอายุของต้นมันสำปะหลังขณะที่เชื้อเข้าทำลาย หากต้นมันสำปะหลังมีอายุน้อย จะพบอาการรุนแรงและชัดเจน หากต้นมันสำปะหลังได้รับเชื้อไว้รัสเมื่ออายุมาก อาการของโรคจะไม่รุนแรง ผลผลิตหัวสดอาจไม่ลดลงมาก นอกจากนี้ระดับความรุนแรงของโรคยังขึ้นอยู่กับพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกอีกด้วย (<ref>ปิยะ กิตติภาดากุล, อัญชนา ท่านเจริญ, วันวิสา ศิริวรรณ์ และ สมบุญ ภาณุวัฒน์สุข. 2562. ไทยอาจต้องเลิกปลูกมันสำปะหลังหากไม่สามารถหยุดโรคใบด่างมันสำปะหลังได้ (ตอนที่ 1). เคหการเกษตร. 43(7): 171-174.</ref>) | ||
[[ไฟล์: | [[ไฟล์:แสดงลักษณะอาการโรคใบด่างมันสำปะหลัง.png|center|thumb|916x916px|แสดงลักษณะอาการโรคใบด่างมันสำปะหลัง]] | ||
== '''การประเมินโรค''' == | == '''การประเมินโรค''' == | ||
การประเมินโรคใบด่างมันสำปะหลังมีการประเมินอัตราการเกิดโรคในมันสำปะหลังที่มีอายุ 1 เดือน และทำการประเมินทุกเดือนจนกระทั่งมันสำปะหลังมีอายุครบ 4 เดือน การประเมินโรคทำโดยสำรวจมันสำปะหลังทุต้น จดบันทึกจำนวนต้นที่เป็นโรค ลักษณะอาการ ระดับความรุนแรง สาเหตุการติดเชื้อไวรัส (ท่อนพันธุ์หรือแมลงหวี่ขาว) โดยอ้างอิงจาก (<ref>Waller, J.M., J.M. Lenné and S.J. Waller. 2002. Plant Pathologist’s Pocketbook. CABI Pub., New York, USA. 528 pp. (การประเมินโรค)</ref>) | การประเมินโรคใบด่างมันสำปะหลังมีการประเมินอัตราการเกิดโรคในมันสำปะหลังที่มีอายุ 1 เดือน และทำการประเมินทุกเดือนจนกระทั่งมันสำปะหลังมีอายุครบ 4 เดือน การประเมินโรคทำโดยสำรวจมันสำปะหลังทุต้น จดบันทึกจำนวนต้นที่เป็นโรค ลักษณะอาการ ระดับความรุนแรง สาเหตุการติดเชื้อไวรัส (ท่อนพันธุ์หรือแมลงหวี่ขาว) โดยอ้างอิงจาก (<ref>Waller, J.M., J.M. Lenné and S.J. Waller. 2002. Plant Pathologist’s Pocketbook. CABI Pub., New York, USA. 528 pp. (การประเมินโรค)</ref>) | ||
อัตราการเกิดโรค = จำนวนพืชที่เป็นโรค x 100 | อัตราการเกิดโรค = จำนวนพืชที่เป็นโรค x 100 | ||
บรรทัดที่ 25: | บรรทัดที่ 24: | ||
ระดับความรุนแรงของโรค (Disease severity) อ้างอิงจาก Terry (1976) <ref>Terry, E. 1976. Description and evaluation of cassava mosaic disease in Africa. In Proc. An Interdisciplinary Workshop. Ibadan, Nigeria. pp. 53–54. (ระดับความรุนแรงโรค)</ref>ซึ่งแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ 1 ไม่แสดงอาการของโรค (Highly resistant) ระดับ 2 แสดงอาการด่างเล็กน้อยบนแผ่นใบ (Moderately resistant) ระดับ 3 แสดงอาการด่างเต็มบนแผ่นใบ และใบเริ่มม้วน ลดรูป (Tolerant) ระดับ 4 แสดงอาการด่างทั่วทั้งใบ ใบบิดม้วนงอ เริ่มลดรูป (Susceptible) และระดับ 5 แสดงอาการใบบิดม้วนงอ ใบลดรูปอย่างรุนแรง (Highly susceptible) (<ref>วันวิสา ศิริวรรณ์. 2561. โรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง. ที่มา: <nowiki>https://www.tapiocathai.org/P.html</nowiki>. วันที่สืบค้น 11 กุมภาพันธ์ 2563.</ref>) | ระดับความรุนแรงของโรค (Disease severity) อ้างอิงจาก Terry (1976) <ref>Terry, E. 1976. Description and evaluation of cassava mosaic disease in Africa. In Proc. An Interdisciplinary Workshop. Ibadan, Nigeria. pp. 53–54. (ระดับความรุนแรงโรค)</ref>ซึ่งแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ 1 ไม่แสดงอาการของโรค (Highly resistant) ระดับ 2 แสดงอาการด่างเล็กน้อยบนแผ่นใบ (Moderately resistant) ระดับ 3 แสดงอาการด่างเต็มบนแผ่นใบ และใบเริ่มม้วน ลดรูป (Tolerant) ระดับ 4 แสดงอาการด่างทั่วทั้งใบ ใบบิดม้วนงอ เริ่มลดรูป (Susceptible) และระดับ 5 แสดงอาการใบบิดม้วนงอ ใบลดรูปอย่างรุนแรง (Highly susceptible) (<ref>วันวิสา ศิริวรรณ์. 2561. โรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง. ที่มา: <nowiki>https://www.tapiocathai.org/P.html</nowiki>. วันที่สืบค้น 11 กุมภาพันธ์ 2563.</ref>) | ||
[[ไฟล์:Image568.png|center|thumb|910x910px|แสดงระดับความรุนแรงของโรค 5 ระดับ ]] | |||
== '''การแพร่ระบาด''' == | == '''การแพร่ระบาด''' == |
การแก้ไข