ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรครากปมมันสำปะหลัง (cassava Root-knot)"

จาก Cassava
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
(สร้างหน้าด้วย "เชื้อสาเหตุเกิดจากไส้เดือนฝอยรากปม ''Meloidogyne incognita'' == ลักษณะ...")
 
บรรทัดที่ 9: บรรทัดที่ 9:
== การป้องกันกำจัด ==
== การป้องกันกำจัด ==
ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)
ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)
[[หมวดหมู่:โรค]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:15, 1 กรกฎาคม 2564

เชื้อสาเหตุเกิดจากไส้เดือนฝอยรากปม Meloidogyne incognita

ลักษณะอาการ

เมื่อไส้เดือนฝอยเข้าทำลายส่วนของรากมันสำปะหลังจะแสดงอาการเป็นปุ่มปม และจะไม่ทำการสะสมอาหาร ในกรณีที่ถูกไส้เดือนฝอยเข้าทำลายรุนแรงจะพบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้ง หรือลำต้นเหี่ยว และอาจทำให้ยืนต้นตายได้ โดยสามารถส่งผลกระทบต่อผลผลิตได้ตั้งแต่ 70% ขึ้นไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง[pk1]  (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)

การแพร่ระบาด

ไส้เดือนฝอยรากปมสามารถแพร่ระบาดได้ดีในพื้นที่เป็นดินร่วนปนทราย สามารถแพร่ระบาดไปได้กับระบบการให้น้ำ หรือไหลไปกับน้ำฝน รวมทั้งติดไปกับดิน หรือติดไปกับเครื่องมือการเกษตรต่างๆ เช่นล้อรถไถ จอบ และเครื่องมืออื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถติดไปกับรองเท้าของเกษตรกรได้เช่นกัน (นุชนารถ, 2016)

การป้องกันกำจัด

ควรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังซ้ำในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ควรปลูกพืชแบบสลับ เช่น ปอเทือง เพื่อลดจำนวนประชากรไส้เดือนฝอยหรือหมั่นตรวจแปลงมันสำปะหลัง ในกรณีที่พบอาการเหี่ยวเฉาที่ใบและกิ่งแห้งทั้งต้น หรือใช้พันธุ์ต้านทาน ระยอง 72 (สำนักงานวิจัยพัฒนาอารักขาพืช, 2559)